Stock

อัปเดตมุมมองนักวิเคราะห์ต่อหุ้นโรงไฟ้า ‘GPSC’

อัปเดตมุมมองจากนักวิเคราะห์ต่อหุ้นโรงไฟ้า “GPSC ” โดดเด่นหรือไม่ แค่ไหนอย่างไร

ต้องบอกว่าช่วงนี้การลงทุนใน “หุ้นกลุ่มพลังงาน” (Energy Sector) โดยเฉพาะธุรกิจโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ เริ่มกลับมาน่าสนใจมากขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากโมเมนตัมต่างๆ ที่สดใสขึ้น เช่นความเสี่ยงจากนโยบายที่มีจำกัด ราคาก๊าซธรรมชาติที่มีแนวโน้มลดลง ตลอดจนทิศทางอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่กำลังเป็นขาลง  คาดว่าจะ่วยหนุนอัตรากำไรของหุ้นโรงไฟฟ้าให้ดีขึ้น

บทวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ ประเมินทิศทางผลประกอบการหุ้นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ จำนวน 6 บริษัท ได้แก่ GULF, GPSC, BGRIM, EGCO, TTW และ BCPG คาดว่างวดไตรมาส 2 ปี 2567 จะมีกำไรสุทธิรวมกัน 10,812 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 76% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ)

การเติบโตอันโดดเด่นนั้นมาจากกำไรสุทธิของ GULF ที่เติบโตจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น กำไรสุทธิของ BCPG ที่สูงขึ้นจากกำไรพิเศษในการขายสินทรัพย์ และ GPSC ที่ผลงานดีขึ้นมาก เพราะราคาก๊าซฯ ที่คาดว่าจะลดลง และปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น สำหรับผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรม

GPSC

ประเมินกำไรไตรมาส 2/2567 หุ้นโรงไฟฟ้า

– GULF กำไร 4,433 ล้านบาท เติบโต 53% YoY
– GPSC กำไร 1,546 ล้านบาท เติบโต 399% YoY
BGRIM กำไร 321 ล้านบาท ลดลง 52% YoY
– EGCO กำไร 2,963 ล้านบาท เติบโต 41% YoY
– TTW กำไร 646 ล้านบาท เติบโต 3.4% YoY
– BCPG กำไร 1,804 ล้านบาท เติบโต 796% YoY

ดังนั้น จึงทำให้นักวิเคราะห์คงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มพลังงาน และได้คัดเลือกหุ้น GPSC หรือ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มด้วยเหตุผล ดังนี้

1. คาด GPSC จะมีผลประกอบการที่ดีในไตรมาส 2/2567

คาดว่ากำไรปกติของ GPSC ในไตรมาส 2/2567 จะโดดเด่นสุดในบรรดาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ บล.เมย์แบงก์ วิเคราะห์ โดยประเมินว่าจะเพิ่มขึ้น 469% YoY และเพิ่มขึ้น 83% QoQ เป็น 1.5 พันล้านบาท

มาจากราคาก๊าซจะลดลง 29% YoY และลดลง 13% QoQ ประกอบกับปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น 12% YoY และ 10% QoQ ซึ่งขายให้กับผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรม ขณะที่อัตราค่าไฟฟ้าลดลงเพียง 14% YoY และคงที่ QoQ

GPSC

2. ราคาก๊าซในไตรมาส 2 จะแตะจุดต่ำสุดของปีนี้

นักวิเคราะห์มั่นใจว่าราคาก๊าซจะยังคงมีแนวโน้มลดลงตลอดปีนี้ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2/67 ที่น่าจะมีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการใช้ราคาก๊าซแบบราคากลางเดียว(single pool) ซึ่งคาดว่าจะทำให้ราคาก๊าซลดลง 7 บาท/mmbtu

ทั้งนี้ ราคาแบบ single pool นี้ จะเริ่มต้นมีการใช้เต็มรูปแบบในไตรมาส 2/2567 และจะมีผลย้อนหลังจากไตรมาส 1/2567 ซึ่งผลกระทบเต็มรูปแบบดังกล่าว จะสะท้อนเข้ามาในผลประกอบการของงวดไตรมาส 2/2567 ด้วย

เพราะฉะนั้น จึงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น GPSC โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 57 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัพไซด์ที่ประมาณ 46% และซื้อขายที่ระดับ P/E ปี 2567 ที่ 19.1 เท่า P/BV ที่ 1.0 เท่า และประมาณการอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 3.2% ต่อปี

สำหรับ GPSC เป็นบริษัทเรือธงในกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าของกลุ่มปตท. โดยปัจจุบันบริษัทประกอบธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และสาธารณูปโภคต่างๆ นอกจากนี้ ยังดำเนินธุรกิจในลักษณะการเข้าถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ สาธารณูปโภคต่างๆ รวมถึงธุรกิจ New S-curve ได้แก่ ธุรกิจแบตเตอรี่ ธุรกิจพลังงานอัจฉริยะ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งในและต่างประเทศ

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน