“PTTEP” กำไรไตรมาส 2 แกร่งกว่าคาด ราคาหุ้น Downside จำกัด ขณะะที่ คำแนะนำการลงทุน
ล่าสุด PTTEP หรือ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 23,977 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงปีก่อน โดยมีปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยอยู่ที่ 489,879 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มอัตราการผลิตปิโตรเลียมของโครงการ G1/61 สู่ระดับ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ตามสัญญาแบ่งปันผลผลิตตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่วนราคาขายผลิตภัณฑ์ปรับตัวลงเล็กน้อยจากราคาขายก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลดลง
สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2567 PTTEP มีความคืบหน้าที่สำคัญในส่วนธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยได้ขยายฐานการลงทุนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) จากการเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุน 10% ในแปลงสัมปทานกาชา
แปลงสัมปทานกาชาเป็นหนึ่งในแหล่งก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของ UAE สามารถเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมให้บริษัทได้ทันที คาดว่าแปลงสัมปทานกาชาจะมีปริมาณการผลิตก๊าซฯ 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ภายในปี 2573 และมีแผนที่จะทำการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1.5 ล้านตันต่อปี เพื่อสนับสนุนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 และภาพรวมปี 2567 บริษัทคาดปริมาณการขายเฉลี่ยที่ประมาณ 484,000 และ 501,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันตามลำดับ โดยหลักจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณขายในประเทศไทย ได้แก่ ความสำเร็จในการเพิ่มกำลังการผลิตของโครงการจี 1/61 (เอราวัณ) สู่ระดับ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และโครงการ บี 8/32 ที่กลับมาดำเนินการผลิตได้ตามปกติ
ส่วนราคาขายราคาก๊าซธรรมชาติ มีโครงสร้างราคาส่วนหนึ่งผูกกับราคาน้ำมันย้อนหลัง 6-24 เดือน บริษัทคาดว่าราคาขายก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 5.9 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู โดยมีแนวโน้มลดลงเพียงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า ส่วนราคาน้ำมันดิบของบริษัทจะผันแปรตามราคาในตลาดโลก
นอกจากนี้ บอร์ด PTTEP มีมติอนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2567 ที่ 4.50 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 13 สิงหาคม 2567 และจะจ่ายเงินปันผลวันที่ 28 สิงหาคมนี้
คำแนะนำการลงทุน PTTEP
บทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า เปิดเผยว่า PTTEP มีกำไรสุทธิไตรมาส 2/2567 ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท(+28% QoQ, +14% YoY) เป็นตัวเลขที่ดีกว่าคาด และดีกว่า Bloomberg Consensus ประเมินไว้ 12-13% สาเหตุหลักมาจากต้นทุนผลิตต่ำกว่าคาด และมีรายได้จากภาษีโครงการโอมานสูงกว่าคาด
สำหรับรายการพิเศษที่สำคัญ ได้แก่ ค่าตัดจำหน่ายโครงการ Oliver 1.1 พันล้านบาท กำไรอัตราแลกเปลี่ยน 740 ล้านบาท ขาดทุน Hedging ราคาน้ำมัน 110 ล้านบาท ทั้งนี้ หากนับเฉพาะผลการดำเนินงานปกติ บริษัททำได้ 2.5 หมื่นล้านบาท (+26%QoQ, +21%YoY) ขยายตัวตามปริมาณขายและราคาขายเร่งตัวขึ้น
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3/2567 ประเมินเบื้องต้นว่ากำไรปกติจะชะลอ QoQ เพราะเป็นช่วงปิดซ่อมบำรุงแหล่งผลิตปิโตรเลียมในประเทศหลายโครงการ ทำให้ปริมาณขายจะลดลงเหลือ 484,000 บาร์เรลต่อวัน และต้นทุนต่อหน่วยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไรปกติยังอยู่ระดับดี สามารถประคองตัวที่ 2 หมื่นล้านบาทได้ เนื่องจากการเร่งผลิตโครงการเอราวัณ และการเพิ่มสัดส่วนลงทุนโครงการ Yadana ในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ด้วยกำไรปกติช่วงครึ่งแรกของปี 2567 คิดเป็น 56% ของทั้งปี ดังนั้น คงประมาณการกำไรปกติปี 2567 ไว้ที่ระดับ 7.9 หมื่นล้านบาท ถือว่าใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี การที่ราคาหุ้น PTTEP ปรับตัวลดลง 6% ในรอบ 1 เดือน ทำให้มองว่าราคาหุ้นมี Downside ที่จำกัด เพราะบริษัทประกาศเงินปันผลงวดที่ 4.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Yield 3.2%
จึงแนะนำ “ซื้อ” PTTEP ราคาเป้าหมาย 172 บาทต่อหุ้น โดยมองว่าราคาน้ำมันช่วง 1 เดือนข้างหน้า ลุ้นฟื้นตัวได้เนื่องจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ยังรุนแรง และ OPEC+ ยังควบคุมอุปทานอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวกจากงบไตรมาส 2/2567 ที่ดีกว่าคาด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- SCB ตัดขาดทุน Robinhood ทนเจ็บช่วงสั้น แต่จะดีระยะยาว
- ด่วน! แอปฯ Robinhood ประกาศหยุดให้บริการ มีผลตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. นี้
- โรบินฮู้ด โดดลุยแอปเรียกรถ ‘Robinhood Ride’ ปลายปี 65 นี้
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg