Stock

กังวลหนัก! ตลาดหุ้นสหรัฐ ‘ลดเวลาจ่ายเงิน’ ซื้อขายหลักทรัพย์ เพิ่มความเสี่ยง-สร้างปัญหามากขึ้น

การซื้อขาย ในตลาดหุ้นสหรัฐ เมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ได้นำการชำระเงินรูปแบบใหม่เข้ามาใช้ ซึ่งจะทำให้มีระยะเวลาในการชำระเงินสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ที่สั้นลง

การเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้บรรดานักลงทุน และเจ้าหน้าที่คุมกฎระเบียบ พากันตื่นตัว เตรียมรับมือกับการซื้อขายที่ล้มเหลวมากขึ้น และถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เพิ่มขึ้นมาสำหรับตลาดเงินขนาดใหญ่สุดของโลกแห่งนี้

ตลาดหุ้นสหรัฐ

ภายใต้การเปลี่ยนแปลงใหม่ ที่ผ่านการเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (ก.ล.ต.สหรัฐ) ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น บรรดาผู้ลงทุนในหุ้น หุ้นกู้ พันธบัตร และหลักทรัพย์อื่น ๆ ในสหรัฐ จะต้องชำระเงินสำหรับการซื้อขายภายใน 1 วันทำการ หลังจากเข้าทำธุรกรรมแล้ว

บรรดาเจ้าหน้าที่คุมกฎระเบียบต่างคาดหวังว่า ระยะเวลาการชำระเงินที่เร็วขึ้นนี้ จะช่วยลดความเสี่ยง และเพิ่มประสิทธิภาพในการซื้อขาย โดยพวกเขาเล็งที่จะกำหนดมาตรฐานใหม่ ที่เรียกกันว่า T+1 หลังเกิดกระแสแห่เข้าซื้อหุ้นที่เรียกว่า “Meme Stock” หรือ หุ้นมีม ในหุ้นบริษัทเกมสต็อป เมื่อปี 2564 ที่เน้นถึงความจำเป็น ที่จะต้องมีการลดความเสี่ยงของคู่สัญญา และเพิ่มประสิทธิภาพของเงินทุน และสภาพคล่องในการซื้อขายหลักทรัพย์

ทั้งนี้ มีมสต็อก คือ หุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาอันสั้น และปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นนั้นไม่ได้มาจากปัจจัยพื้นฐาน

อย่างไรก็ตาม การลดระยะเวลาขำระเงินข้างต้น มาพร้อมกับความเสี่ยงเช่นกัน เนื่องจากบริษัทต่างๆ มีเวลาน้อยลงในการจัดเตรียมเงินดอลลาร์ เพื่อซื้อหุ้น เรียกคืนหุ้นที่กู้ยืม หรือแก้ไขข้อผิดพลาดในการทำธุรกรรม ซึ่งอาจทำให้เกิดความล้มเหลวในการชำระหนี้ และเพิ่มต้นทุนการทำธุรกรรมมากขึ้น

การทดสอบครั้งใหญ่ จะเกิดขึ้นในวันนี้ (29 พ.ค.) ตามเวลาในสหรัฐ หลังจากเมื่อวันนี้ เป็นวันแรกของการนำระบบ T+1 เข้ามาใช้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น

ตลาดหุ้นสหรัฐ

นายโจ ซาลัซซี หัวหน้าร่วมฝ่ายซื้อขายหุ้นของ Themis Trading กล่าวว่า ตลาดอาจมีความสับสน และมีปัญหาเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องมารอดูกันว่า จะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่

บททดสอบระบบใหม่ น่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งเกิดขึ้นในวันศุกร์ (31 พ.ค.) เมื่อ MSCI ดัชนีที่ติดตามและวัดผลการดำเนินงานของ 4,500 บริษัทจาก 23 ประเทศทั่วโลก ดำเนินการปรับดัชนีรายไตรมาส ส่งผลให้เกิดความกังวลว่า ในวันซื้อขายครั้งใหญ่สุดวันหนึ่งของปี อาจทำให้ตลาดตึงเครียด ในช่วงเวลาที่กำลังปรับตัวเข้ากับระบบใหม่

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo