เชื่อว่าหนึ่งในหุ้นใหญ่พื้นฐานแกร่ง แต่ราคาแกว่งลงมาจนน่าใจหาย จะต้องมีชื่อของ SCC หรือ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) อยู่ในลิสต์ด้วยอย่างแน่นอน
เพราะตั้งแต่ต้นปี 2567 ราคาหุ้นปรับตัวลงไปแล้ว -11.22% และถ้าใครถือหุ้น SCC มา 12 เดือน จะต้องขาดทุนไปแล้วเกือบ -22% ไม่ต้องพูดถึงการถือระยะยาวระดับ 5 ปีที่ขาดทุนไปถึง -40%
เรียกว่าขณะนี้ราคา “หุ้นปูนใหญ่” แทบจะไม่ได้เติบโตไปไหนเลยตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันซื้อขายที่ P/E 11.78 เท่า และ P/BV 0.84 เท่า กับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 3-5% ต่อปี
(หมายเหตุ: อัปเดตราคาหุ้น ณ วันที่ 26 มกราคม 2567)
อะไรเป็นปัญหาของหุ้น SCC
ประการแรกเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่ง SCC คือหนึ่งของเป้าหมายของหุ้นที่ต่างชาติ ได้มีการปรับพอร์ตขายออกไป เพราะเป็นหุ้นใหญ่ระดับ Blue Chip ที่สถาบันถือครองกันเยอะในช่วงก่อนหน้านี้
แต่อีกส่วนหนึ่งก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าเป็นเพราะผลประกอบการของ SCC ที่ไม่ประทับใจนัก บางธุรกิจเริ่มเติบโตช้าลง บางธุรกิจไม่โต และบางธุรกิจอยู่ในช่วงขาลง!
- ปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 437,979.88 ล้านบาท กำไรสุทธิ 32,014.28 ล้านบาท
- ปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 399,939.20 ล้านบาท กำไรสุทธิ 34,143.87 ล้านบาท
- ปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 530,111.63 ล้านบาท กำไรสุทธิ 47,173.99 ล้านบาท
- ปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 569,608.70 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21,382.35 ล้านบาท
มองด้วยตาเปล่าก็จะเห็นว่า ภาพรวมผลประกอบการของ SCC ทรง ๆ ทรุด ๆ และล่าสุดในปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 501,217.21 ล้านบาท ลดลง -12 จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 27,206.57 เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อน ทว่ากำไรที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566
ถ้าให้อธิบายสั้น ๆ คือ ผลประกอบการ SCC ในปี 2566 ธุรกิจเคมิคอลส์มีส่วนต่างราคาขายลดลง ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างมีขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ของโรงงานซีเมนต์ในภูมิภาค
หุ้น SCC ถึงเวลากลับมาหรือยัง
การที่ราคาหุ้น SCC ลงมาอยู่ในโซนที่ถูกขนาดนี้ แม้ว่าจะยังมีปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน และความกังวลเรื่องผลประกอบการที่ยังไม่สดใสนัก แต่คำถามคือ ถ้าเรามองไปอนาคตข้างหน้าล่ะ ปูนใหญ่มีแววกลับมาผงาดไหม แล้วเราควรมองเป็นโอกาสเข้าไปทยอยสะสมบ้างหรือยัง
นักวิเคราะห์ บล. ไอร่า ให้มุมมองต่อหุ้น SCC ว่าระดับราคาได้ปรับตัวลดลงตามสัญญาณขายที่เกิดขึ้นล่าสุด เมื่อหลุดแนวรับสำคัญที่บริเวณ 282 บาทต่อหุ้น โดยปรับตัวลดลงมาอย่างรวดเร็ว จนระยะสั้นเกิดภาวะ Oversold ใน RSI อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้พร้อมจะมี Rebound ในช่วงสั้นได้
ด้าน บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ เปิดเผยว่า ยังคงแนะนำกลยุทธ์การลงทุนแบบ DCA โดยการทยอยสะสมหุ้น SCC เนื่องจากมีแนวโน้มระยะกลางถึงระยะยาวที่ดี เนื่องจากได้แรงหนุนจากกำลังการผลิตเพิ่มเติมที่โรงงาน LSP ในธุรกิจเคมิคอลส์ นอกจากนี้ valuation ก็น่าสนใจ แต่ปรับราคาเป้าหมายลดลงจาก 357 บาทต่อหุ้น สู่ 325 บาทต่อหุ้น เพื่อสะท้อนการปรับประมาณการกำไรลดลง
อย่างไรก็ดี ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของ SCC คือการเปลี่ยนแปลงในกำลังซื้อ ต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงอุปทานเพิ่มเติมจำนวนมากที่จะเข้าสู่ตลาด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิด 5 หุ้นเด่น แทงสวนต่างชาติเทขายหุ้นไทย
- เกิดอะไรขึ้นกับ KTB โดนถล่มขาย!!
- ‘BEM’ วิ่งต่อตามจังหวะของตัวเอง
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg
