ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนผู้แนะนำการลงทุน “เสาวรัตน์ บุญชู” รวม 9 ปี 12 เดือน กรณีปฏิบัติหน้าที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริตและมีพฤติกรรมอันส่อไปในทางไม่สุจริต
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งเพิกถอนผู้แนะนำการลงทุน นางสาวเสาวรัตน์ บุญชู เป็นเวลา 9 ปี 12 เดือน กรณีปฏิบัติหน้าที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต โดยกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน และมีพฤติกรรมอันส่อไปในทางไม่สุจริตที่ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ ขณะกระทำผิดสังกัดธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ก.ล.ต. ได้รับรายงานจากธนาคารกรุงไทย และตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่า ในเดือนพฤศจิกายน 2564 นางสาวเสาวรัตน์ กระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุนโดยขายกองทุนของลูกค้าที่ไม่ใช่ความประสงค์ของลูกค้า ทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหาย เป็นเงินรวม 1,027,000 บาท โดยมีพฤติกรรม ดังนี้
1. ใช้บัตรประชาชนที่ลูกค้าได้ฝากไว้ใช้ในการยืนยันตัวตน และใช้รหัสผ่านของพนักงานที่มีอำนาจอนุมัติในการอนุมัติรายการขายหน่วยลงทุน และใช้บริการ Internet banking ในบัญชีของลูกค้าในการโอนเงินค่าขายหน่วยลงทุนออกจากบัญชีเงินฝากของลูกค้าไปยังบัญชีเงินฝากของตนเองเพื่อนำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว
2. โอนเงินฝากของลูกค้าเพิ่มเติมจากกรณีดังกล่าวข้างต้นไปยังบัญชีเงินฝากของตนเอง ซึ่งทำในวันเดียวกันนี้
ทั้งนี้ นางสาวเสาวรัตน์ได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ลูกค้าดังกล่าวครบถ้วนแล้ว
ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของนางสาวเสาวรัตน์ตาม
(1) เป็นความผิดฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน
(2) เป็นความผิดฐานมีพฤติกรรมอันส่อไปในทางไม่สุจริตที่ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งสองกรณีเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ก.ล.ต. จึงเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 2
ทั้งนี้ กำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไปของนางสาวเสาวรัตน์ เป็นเวลา 9 ปี 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2566
ในการพิจารณากำหนดโทษ ก.ล.ต. ได้นำปัจจัยดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาของ ก.ล.ต. ด้วย ได้แก่ บทบาทความเกี่ยวข้องและพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว
ผลกระทบความเสียหายหรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน
ก.ล.ต. ขอย้ำให้ผู้ลงทุนตรวจสอบรายงานการถือหน่วยลงทุนและบัญชีเงินฝากอย่างสม่ำเสมอ และไม่ฝากเอกสารสำคัญไว้กับผู้แนะนำการลงทุน
กรณีมีข้อสงสัยควรติดต่อบริษัทผู้ให้บริการ หรือสอบถามได้ที่ ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต. โทร. 1207 หรือ เฟซบุ๊กเพจ สำนักงาน กลต. หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เศรษฐา’ หารือตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ย้ำนโยบายเศรษฐกิจรัฐบาล หนุนเอกชนไทยเข้าถึงแหล่งเงินทุน
- คลี่ประเด็นร้อน ‘หุ้น NUSA’ ทำไมตลาดหลักทรัพย์แจ้งเตือน
- ‘ยัสปาล’ ยื่นไฟลิ่ง ขายหุ้น IPO ไม่เกิน 156 ล้านหุ้น จ่อเข้าตลาดหลักทรัพย์