ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (6 ก.ค.) โดยที่ “ดาวโจนส์” ดิ่งแรงกว่า 400 จุด หลังข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ภาคเอกชนสหรัฐจ้างงานแข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 33,841.19 จุด ดิ่งลง 447.45 จุด หรือ 1.30% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,399.00 จุด ร่วงลง 47.82 จุด หรือ 1.08% และดัชนีแนสแด็ก ที่ 13,633.68 จุด ร่วงลง 157.98 จุด หรือ 1.15%
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 497,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน หลังจากเพิ่มขึ้น 267,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม ถือเป็นการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 โดยในเดือนดังกล่าว ภาคบริการจ้างงานเพิ่มขึ้น 373,000 ตำแหน่ง ส่วนภาคการผลิตจ้างงานเพิ่มขึ้น 124,000 ตำแหน่ง
ตัวเลขจ้างงานดังกล่าว ยังทำให้ล่าสุด นักลงทุนให้น้ำหนัก 96.1% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 กรกฎาคม และให้น้ำหนักเพียง 3.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%
ก่อนหน้านี้ เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนมิถุนายน โดยระบุว่า กรรมการส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยอีกมากกว่า 1 ครั้งในปีนี้ หลังจากที่ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนที่แล้ว
ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (dot plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้ง สู่ระดับ 5.6% ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดอยู่ในกรอบ 5.50-5.75% ภายในสิ้นปีนี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เฟด’ ส่งสัญญาณ ‘ขึ้นดอกเบี้ย’ อีก 2 ครั้ง หลังคงดอกเบี้ยตามคาด
- เช็กฟอร์ม 10 หุ้น ราคาวิ่งแรงสุด ตั้งแต่ต้นปี 66
- ‘เอชเอสบีซี’ ฟันธง ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ ถดถอยปีนี้ ‘ยุโรป’ ปีหน้า