ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดวานนี้ (7 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ปรับตัวขึ้นไม่ถึง 100 จุด ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน
อย่างไรก็ดี ดัชนีแนสแด็ก และเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นบริษัท ที่มีทุนจดทะเบียนสูงและหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,665.02 จุด เพิ่มขึ้น 91.74 จุด หรือ +0.27% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,267.52 จุด ลดลง 16.33 จุด หรือ -0.38% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 13,104.89 จุด ลดลง 171.52 จุด หรือ -1.29%
ตลาดยังถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีและ 10 ปี หลังจากธนาคารกลางแคนาดาประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้าเช่นกัน
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 30% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิถุนายน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 21.8% และให้น้ำหนัก 69% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ที่ 5.00-5.25% ซึ่งลดลงจากระดับ 77%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังให้น้ำหนัก 65% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนกรกฎาคม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นักลงทุนมั่นใจเกิน 83% ประชุมเดือน มิ.ย. ‘แบงก์ชาติสหรัฐ’ ไม่ขึ้นดอกเบี้ย
- นักเศรษฐศาสตร์ชี้ ‘พาวเวล’ ไม่หยุดขึ้นดอกเบี้ย จนกว่า ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ ถดถอย
- ‘สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ’ ลงมติท่วมท้น ผ่านข้อตกลง ‘เพิ่มเพดานหนี้’