Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดลบ 134.51 จุด กังวลดอกเบี้ยขาขึ้น จับตาผลโหวตเพดานหนี้

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (31 พ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้น สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งทำให้ตลาดกังวลว่าจะเป็นปัจจัยผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการลงมติร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ของสภาคองเกรส

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 32,908.27 จุด ลดลง 134.51 จุด หรือ -0.41% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,179.83 จุด ลดลง 25.69 จุด หรือ -0.61% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 12,935.28 จุด ลดลง 82.14 จุด หรือ -0.63%

ดาวโจนส์

สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 358,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.1 ล้านตำแหน่งในเดือนเมษายน  สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 9.375 ล้านตำแหน่ง หลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน

นักวิเคราะห์ระบุว่า การเพิ่มขึ้นของตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ท่ามกลางภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานนั้น เป็นปัจจัยหนุนการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อ เนื่องจากพนักงานจะมีอำนาจต่อรองในการขอขึ้นค่าแรงต่อนายจ้าง ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันต่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 66.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิถุนายน และให้น้ำหนักเพียง 33.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%

สภาคองเกรสสหรัฐ ทำการลงมติร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ซึ่งมีชื่อว่า “พ.ร.บ.ความรับผิดชอบทางการคลัง” (Fiscal Responsibility Act) ในวันนี้ (1 มิ.ย.) เวลา 07.30 น.ตามเวลาไทย โดยหากสภาผู้แทนราษฎรให้การรับรองร่างกฎหมายดังกล่าว ก็จะส่งต่อเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาสหรัฐ และหากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบ ก็จะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ลงนามเป็นกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 1.1% หลังจากบรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) เปิดเผยว่า ยอดเงินฝากของธนาคารในสหรัฐร่วงลง 2.5% ในไตรมาสแรกปีนี้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo