Stock

‘ดาวโจนส์’ พุ่งแรงกว่า 300 จุด ขานรับความหวัง ‘เจรจาเพดานหนี้’ สำเร็จวันนี้

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (26 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” พุ่งแรงกว่า 300 จุด ขานรับคาดการณ์ที่ว่า ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ในวันนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 33,075.52 จุด พุ่งขึ้น 310.87 จุด หรือ 0.95% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,200.65 จุด ปรับขึ้น 49.37 จุด หรือ 1.19% และดัชนีแนสแด็กที่ 12,951.21 จุด ทะยานขึ้น 253.12 จุด หรือ 1.99%

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก จะปิดทำการในวันจันทร์ (29 พ.ค.) เนื่องในวัน Memorial Day

ดาวโจนส์

นายเควิน เฮิร์น แกนนำพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ แสดงความเชื่อมั่นว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะบรรลุข้อตกลงในการขยายเพดานหนี้สหรัฐก่อนสุดสัปดาห์นี้

“เรากำลังใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลง โดยพวกเขากำลังปรับแก้รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งอาจเห็นข้อตกลงในช่วงบ่ายของวันศุกร์นี้”

คำกล่าวของนายเฮิร์นสอดคล้องกับรายงานของโกลด์แมน แซคส์ ที่ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ใกล้บรรลุข้อตกลงในการขยายเพดานหนี้สหรัฐ

“แม้เป็นเรื่องยากที่จะทำนายว่าทั้งสองฝ่ายจะมีการประกาศข้อตกลงเมื่อใด แต่เราคิดว่ามีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะมีการประกาศข้อตกลงกันในวันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม หรือวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม”

หากทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงตามที่คาดการณ์ไว้ ก็จะทำให้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐทำการลงมติต่อข้อตกลงดังกล่าวในวันอังคารที่ 30 พฤษภาคม หรือวันพุธที่ 31 พฤษภาคม

ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นในวันนี้ แม้สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อยังคงดีดตัวขึ้น และจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักมากกว่า 50% ต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนี PCE ในวันนี้

ดาวโจนส์

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 57.4% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิถุนายน และให้น้ำหนัก 42.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ระบุว่า เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 4.4% ในเดือนเมษายน จากระดับ 4.2% ในเดือนมีนาคม และเมื่อเทียบรายเดือนปรับขึ้น 0.4% จากระดับ 0.1% ในเดือนมีนาคม

ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 4.7% ในเดือนเมษายน เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.6% จากระดับ 4.6% ในเดือนมีนาคม และเมื่อเทียบรายเดือน ปรับขึ้น 0.4% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% จากระดับ 0.3% ในเดือนมีนาคม

ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo