ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (25 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ขยับลงเล็กน้อย นักลงทุนยังกังวล เรื่องการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ ที่ยังยืดเยื้อ แต่ “แนสแด็ก” ทะยานกว่า 200 จุด แรงหนุนหุ้น “เอ็นวิเดีย” พุ่ง ขานรับผลประกอบการดีเกินคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 32,764.65 จุด ลดลง 35.27 จุด หรือ -0.11% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,151.28 จุด เพิ่มขึ้น 36.04 จุด หรือ +0.88% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 12,698.09 จุด พุ่งขึ้น 213.93 จุด หรือ +1.71%
ราคาหุ้น “เอ็นวิเดีย” บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก พุ่งขึ้น 24.37% หลังเปิดเผยผลประกอบการช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ที่แข็งแกร่ง มีกำไรต่อหุ้น 1.09 ดอลลาร์ และมีรายได้อยู่ที่ 7,190 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าคาดการณ์
การทะยานขึ้นดังกล่าว ช่วยหนุนราคาหุ้นบริษัทเทคโนโลยี ที่พัฒนา AI และบริษัทผลิตชิปรายอื่น ๆ ดีดตัวขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ ขณะที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้เครดิตพินิจ (Rating Watch) ของสหรัฐเป็นเชิงลบ และเตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ AAA เนื่องจากการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งอาจจะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์
รายงานล่าสุดระบุว่า ขณะนี้ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสมีความเห็นต่างกันในบางประเด็น ซึ่งรวมถึงประเด็นการใช้จ่ายในโครงการที่ริเริ่มโดยพรรคเดโมแครต เช่นการจัดหาที่อยู่อาศัยและการศึกษา ซึ่งมีมูลค่าราว 70,000 ล้านดอลลาร์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ขุนคลังสหรัฐ’ เตือนรับมือ ‘มหันตภัยการเงิน’ หากคองเกรสไม่เพิ่ม ‘เพดานหนี้’
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ เพิ่มคาดการณ์ ‘เศรษฐกิจเอเชีย’ ปี 66 โต 4.6% หั่นจีดีพีไทย เหลือ 3.4%
- กระแสเปลี่ยน! นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ ‘แบงก์ชาติสหรัฐ’ ขึ้นดอกเบี้ยเดือนหน้า