Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดร่วงเกือบ 400 จุด กังวล ‘วิกฤติธนาคาร’ เกาะติดตลาด

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (17 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ดิ่งลงเกือบ 400 จุด จากแรงเทขายหุ้น ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับ “วิกฤติธนาคาร” และความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะตกอยู่ในภาวะถดถอย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์  ปิดที่ 31,861.98 จุด ลดลง 384.57 จุด หรือ -1.19% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,916.64 จุด ลดลง 43.64 จุด หรือ -1.10% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 11,630.51 จุด ลดลง 86.76 จุด หรือ -0.74%

ดาวโจนส์

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนลบ โดยกลุ่มการเงินร่วงลงมากที่สุด เนื่องจากนักลงทุนกลับมากังวลเรื่องวิกฤติในภาคธนาคารอีกครั้ง หลังจากเอสวีบี ไฟแนนเชียล กรุ๊ป บริษัทแม่ของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ (SVB) ได้ยื่นเรื่องต่อศาลนิวยอร์ก เพื่อขอรับการพิทักษ์ทรัพย์ ภายใต้กฎหมายล้มละลาย ตามมาตรา 11

นักลงทุนวิตกว่า การล้มละลายของ SVB และธนาคารซิกเนเจอร์ ของสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น จะส่งผลกระทบต่อไปยังระบบธนาคารทั่วโลก และความวิตกดังกล่าวได้แผ่ขยายไปยังยุโรป โดยหุ้นธนาคารเครดิต สวิส ร่วงลงจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาสภาพคล่องของธนาคาร ซึ่งกระตุ้นให้ผู้กำหนดนโยบายรีบเข้ามาช่วยเหลือเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาด

บรรดานักลงทุน ยังมุ่งความสนใจในขณะนี้ไปที่การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 60.5% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 21-22 มีนาคมนี้ และให้น้ำหนักเพียง 39.5% ที่เฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo