Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาดพุ่ง 371.98 จุด คลายกังวล ‘วิกฤติภาคธนาคาร’

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (16 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” พุ่งขึ้น 371.98 จุด เหตุนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร หลังกลุ่มธนาคารรายใหญ่ ร่วมกันอัดฉีดเงิน 30,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคารเฟิร์สต์ รีพับลิค

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 32,246.55 จุด พุ่งขึ้น 371.98 จุด หรือ +1.17% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,960.28 จุด เพิ่มขึ้น 68.35 จุด หรือ +1.76% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 11,717.28 จุด เพิ่มขึ้น 283.22 จุด หรือ +2.48%

ดาวโจนส์

กลุ่มธนาคารรายใหญ่ในวอลล์สตรีทได้ตกลงที่จะฝากเงินในธนาคารเฟิร์สต์ รีพับลิค (FRB) เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคารแห่งนี้ โดยแบงก์ ออฟ อเมริกา เวลส์ ฟาร์โก ซิตี้กรุ๊ป และเจพีมอร์แกน จะฝากเงินใน FRB รายละ 5,000 ล้านดอลลาร์

ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ และมอร์แกน สแตนลีย์ จะฝากเงินใน FRB รายละ 2,500 ล้านดอลลาร์ ส่วนธนาคารทรูอิสต์ ไฟแนนเชียล พีเอ็นซี, ยูเอส แบงคอร์ป สเตทสตรีท และแบงก์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน จะฝากเงินใน FRB รายละ 1,000 ล้านดอลลาร์

แถลงการณ์ของกลุ่มธนาคารดังกล่าว ระบุว่า การที่กลุ่มธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐพร้อมใจกันอัดฉีดเงินรวมกัน 30,000 ล้านดอลลาร์ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มธนาคารรายใหญ่มีความเชื่อมั่นใน FRB และธนาคารทุกขนาด และยังสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ธนาคารต่าง ๆ สามารถให้บริการแก่ลูกค้าต่อไป

ข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น โดยหุ้นเจพีมอร์แกน และหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับตัวขึ้น 1.94% และ1.89% ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังช่วยหนุนหุ้นธนาคารระดับภูมิภาค โดยหุ้น FRB ทะยานขึ้น 9.98% หุ้นอัลลิอันซ์ แบงคอร์ป พุ่งขึ้น 14.09% และหุ้นแพคเวสต์ แบงคอร์ป ดีดตัวขึ้น 0.7%

หุ้นธนาคารเครดิต สวิส ฟื้นตัวขึ้นในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากเครดิต สวิส ประกาศขอกู้ยืมเงินจากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์จำนวน 50,000 ล้านฟรังก์ภายใต้โครงการจัดหาเงินกู้แบบครอบคลุม และการจัดหาสภาพคล่องในระยะสั้น

ดาวโจนส์

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น และเป็นปัจจัยหนุนดัชนีแนสแด็กทะยานขึ้นแข็งแกร่งที่สุด นับตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ปีนี้ โดยหุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 4.38% หุ้นแอปเปิ้ล บวก 1.87% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 4.05% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 3.06%

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมสัปดาห์หน้า และจะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่า เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo