ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (15 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงเกือบ 300 จุด จากความกังวลถึงสถานะการเงินของ “เครดิต สวิส” ทำให้มองข้ามกระแสคาดการณ์ว่า “ธนาคารกลางสหรัฐ” อาจชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 31,874.57 จุด ลดลง 280.83 จุด หรือ -0.87% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,891.93 จุด ลดลง 27.36 จุด หรือ -0.70% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 11,434.05 จุด เพิ่มขึ้น 5.90 จุด หรือ +0.05%
นักลงทุนเทขายหุ้น “เครดิต สวิส” ที่ซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กอย่างหนัก จนทำให้ราคาร่วงลงไปถึง 13.94% หลังมีธนาคารซาอุดี เนชั่นแนล แบงก์ (SNB) ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของเครดิต สวิส ประกาศไม่ช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเติม เพราะจะทำให้ SNB ถือหุ้นในเครดิต สวิสมากกว่า 10% ซึ่งจะเป็นการทำผิดกฎระเบียบธนาคาร
เครดิต สวิส ธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ กำลังเจอวิกฤติทางการเงินอย่างรุนแรง ประกาศตัวเลขขาดทุนสุทธิ 1,400 ล้านฟรังก์สวิสในไตรมาส 4/2565 ส่งผลให้ยอดขาดทุนตลอดทั้งปีอยู่ที่ 7,300 ล้านฟรังก์ ทั้งยังโดนลูกค้าแห่ถอนเงินฝากมากกว่า 110,000 ล้านฟรังก์ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว จากข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการทำผิดกฎระเบียบ และความเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดี
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นนิวยอร์กลดช่วงลบ หลังมีรายงานว่า รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์จัดการประชุมเพื่อหาแนวทางสร้างเสถียรภาพให้กับเครดิต สวิส และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึง FINMA หน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ ให้คำมั่นว่าจะจัดหาสภาพคล่องเพื่อช่วยเหลือเครดิต สวิส
หุ้นธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐดิ่งลงอย่างหนัก โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 3.1% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 3.24% หุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 4.7% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ดิ่งลง 5.36% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 4.7%
หุ้นเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ (First Republic Bank) และหุ้นแพคเวสต์ (PacWest) ซึ่งเป็นธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐ ทรุดตัวลง 21.37% และ 12.87% ตามลำดับ โดยหุ้นของทั้งสองธนาคารถูกระงับการซื้อขายหลายครั้งในระหว่างวัน ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ตลาดหุ้นยุโรป’ ระงับซื้อขาย ‘หุ้นแบงก์’ หลายแห่ง หลังราคาดิ่งหนัก
- ย้อนรอยเส้นทางรุ่งโรจน์ ‘SVB’ ก่อนสร้างตำนาน ‘แบงก์ยักษ์ล้ม’ อย่างไม่คาดฝัน
- หุ้นอสังหาฯ ก้าวข้ามความท้าทาย