สิ้นสุดการรอคอยสำหรับใครที่กำลังคาดหวังการจ่ายเงินปันผลของหุ้นธนาคาร (Banking) เพราะล่าสุดได้ทยอยประกาศมาครบทุกธนาคารแล้ว โดยรวมแล้วคิดเป็นมูลค่าเงินปันผลตลอดทั้งปีกว่า 76,000 ล้านบาท สะท้อนกำไรของกลุ่มธุรกิจที่เติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาระสำรองที่ลดลง
เงินปันผลกับหุ้นธนาคารเป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กันเสมอ โดยเฉพาะในแง่ที่ส่งผลต่อความสนใจของนักลงทุน เพราะธนาคารเป็นธุรกิจที่มีฐานะทางการเงินมั่นคงแข็งแกร่ง จึงสามารถจ่ายเงินปันผลออกมาสม่ำเสมอ
บทความนี้เลยอยากจะรวบรวมจำนวนเงินปันผลที่แต่ละธนาคารได้จ่าย รวมทั้งคำนวณอัตราการเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) สำหรับงวดปี 2565 มาฝากกัน
หมายเหตุ : อัตราเงินปันผลตอบแทน อ้างอิงราคาหุ้น ณ วันที่ 1 มีนาคม 2566
สำหรับตัวเลขเงินปันผลต่อหุ้นดังกล่าว เป็นผลรวมของเงินปันผลของงวดระหว่างกาลที่จ่ายไปเมื่อช่วงครึ่งปี และงวดประจำปีที่เพิ่งประกาศออกมา ซึ่งปีนี้จะมาบางธนาคารที่จ่ายปันผลเพียงครั้งเดียว ได้แก่ TISCO, KTB, CIMBT และ LHFG
นอกจากนี้ เราได้คำนวณอัตราเงินปันผลตอบแทน ซึ่งคิดจากสูตร (เงินปันผลรวมต่อหุ้น x 100) ÷ ราคาหุ้น ณ วันที่ 1 มีนาคม 2566 พบว่าค่าเฉลี่ยของทุกธนาคารอยู่ที่ 4.20% อย่างไรก็ตาม ธนาคารที่ให้อัตราเงินปันผลตอบแทนสูงสุด คือ ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) อยู่ที่ 7.60% รองลงมาได้แก่ ทุนธนชาต (TCAP) ที่ 7.25% เอสซีบี เอกซ์ (SCB) ที่ 6.43% ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) ที่ 5.25% และธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) ที่ 4.92%
แต่หากคิดเป็นมูลค่าเงินที่จัดสรรเงินจากกำไรเพื่อจ่ายปันผลสูงสุด พบว่าอันดันหนึ่งเป็น เอสซีบี เอกซ์ (SCB) จัดสรรเงินจากกำไรเพื่อจ่ายปันผล 22,528 ล้านบาท ตามมาด้วยธนาคารกรุงไทย (KTB) เท่ากับ 9,536 ล้านบาท และธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เท่ากับ 9,477 ล้านบาท
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลเงินปันผลหุ้นธนาคาร ที่เราสรุปออกมาให้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่กำลังรอเก็บดอกผลจากการลงทุนนี้อยู่ อย่าลืมตรวจสอบวันที่กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ของแต่ละธนาคารให้ดีๆ ซึ่งจะอยู่ระหว่างเดือนมีนาคม – เมษายน และจ่ายปันผลงวดที่เหลือประมาณช่วงพฤษภาคม 2566 นี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘KBANK’ เข้าลงทุน ‘JMT’ สร้างโอกาสเติบโตร่วมกันระยะยาว!!
- เช็กราคาเป้าหมายหุ้น PTT ปี 2566 กับมุมมองนักวิเคราะห์!!
- 6 หุ้นปัง รับควันหลง ‘เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5’