Stock

จุดตัด ‘ตู้เต่าบิน’ โตด้วยปริมาณหรือคุณภาพ?

จุดตัด ตู้เต่าบินโตด้วยปริมาณหรือคุณภาพ ยอดขายเฉลี่ยปี 2565 กลับลดลง 5.9% มาอยู่ที่ 44,574 บาทต่อตู้ต่อเดือน เทียบกับปี 2564 ที่มียอดขายเฉลี่ย 47,379 บาทต่อตู้ต่อเดือน

ตู้เต่าบิน ดำเนินงานโดย บริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของหุ้น FORTH หรือ บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 45% และ FSMART หรือ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 19%

ทั้งนี้ FSMART เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นธุรกิจตู้เต่าบิน รวมทั้งยังเป็นผู้ดูแลระบบและบริหารจัดการตู้อัตโนมัติอีกด้วย จึงได้สรุปตัวเลขผลการดำเนินธุรกิจของตู้เต่าบินในปี 2565 โดยสามารถสร้างยอดขายสูงถึง 1,510 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 2,920% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มียอดขาย 50 ล้านบาท

ตู้เต่าบินโต

ตู้เต่าบินโต ยอดเฉลี่ยปี 2565 กลับลดลง 5.9%

แต่ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ยอดเฉลี่ยของตู้เต่าบิน ในปี 2565 กลับลดลง 5.9% มาอยู่ที่ 44,574 บาทต่อตู้ต่อเดือน เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มียอดขายเฉลี่ย 47,379 บาทต่อตู้ต่อเดือน

จึงเกิดเป็นคำถามที่ชวนหาคำตอบว่าระหว่างการทำธุรกิจที่เน้นปริมาณเยอะๆ ขยายจำนวนสาขามากๆ แล้วเอารายได้ทุกสาขามารวมเพื่อนำมาจ่ายเฉลี่ยทุกสาขา เทียบกับการมุ่งเน้นคัดกรองคุณภาพของแต่ละสาขา ด้วยการรักษายอดขายเฉลี่ยต่อตู้ กลยุทธ์ไหนจะส่งผลดีในระยะยาวมากกว่ากัน

ตู้เต่าบินโต

ตู้เต่าบินเริ่มธุรกิจตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2564 และจนถึงสิ้นปี 2565 ตู้เต่าบินมีจำนวนทั้งสิ้น 4,942 ตู้ เพิ่มขึ้น 805% จากปี 2564 ที่มีจำนวน 546 ตู้ นับเป็นอัตราการเติบโตที่รวดเร็วมาก อย่างไรก็ตาม จะพบว่าตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 ที่มีการกระจายตู้ไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ตามมานั่นคือยอดขายเฉลี่ยต่อตู้ที่หดลงต่อเนื่องถึง 2 ไตรมาสติด แถมยังเป็นตัวเลขเฉลี่ยที่ต่ำกว่าช่วงเริ่มต้นธุรกิจอีกด้วย

นอกจากนี้ ไตรมาส 4 ปี 2565 ตู้เต่าบินทำยอดขายได้ 46 แก้วต่อตู้ต่อวัน  เป็นยอดขายเฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์ 50 แก้วต่อตู้ต่อวัน เนื่องจากต้องเร่งขยายจำนวนตู้ให้ได้ตามแผน โดยบางพื้นที่ไม่สามารถทำยอดขายได้ตามเป้า จนต้องย้ายทำเลใหม่ พร้อมทั้งได้รับผลกระทบจากฤดูกาล คือ ช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว

ตู้เต่าบินโต

อย่างไรก็ดี ผู้บริหารบริษัทยังคงยืนยันเป้าหมายปี 2566 วางแผนขยายตู้เต่าบิน เพิ่มอีก 5,000 ตู้ เท่ากับว่ารวมเป็นทั้งหมด 10,000 ตู้เลยทีเดียว และยังคงเป้าหมายเดิมที่จะขยายตู้เต่าปินให้ได้ 20,000 ตู้ ภายในปี 2567 โดยที่รักษายอดขายเฉลี่ย 50 แก้วต่อวันต่อตู้ หรือรวม 1 ล้านแก้วต่อวัน เพื่อผลักดันยอดขายเป็นวันละ 30 ล้านบาท สร้างรายได้รวม 10,000 ล้านบาทต่อปี

นับเป็นเป้าหมายที่ท้าทายมากๆ ของบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด ที่ต้องการผลักดันการเติบโตด้วยการขยายสาขาแบบก้าวกระโดด ควบคู่กับการรักษายอดขายเฉลี่ยให้ดีขึ้น เพื่อหนุนอัตรากำไรให้แก่ธุรกิจ พร้อมปูทางสู่แผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2566

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน