Stock

‘AWC’ แกร่งเกินต้าน ค่าห้องพักทำราคานิวไฮ!!

ปีที่ผ่านมาตลาดการลงทุนธุรกิจโรงแรมในไทยมีความคึกคักขึ้นมาก หนุนให้ธุรกิจของ หุ้น AWC หรือ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) สร้างการเติบโตก้าวกระโดด โดยมีผลการดำเนินงานปี 2565 รายได้รวม 14,522 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 3,981 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดมากกว่า 280% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

เป็นผลจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของกลุ่มโรงแรมที่สามารถสร้างอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อวัน (Average Daily Rate หรือ ADR) สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวของประเทศที่กลับมาฟื้นตัวอย่างเด่นชัดในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวส่งท้ายปี และการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ 

ในปี 2565 ที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเที่ยวด้วยตัวเอง (Foreign Independent Tour) คิดเป็นจำนวนกว่า 11.8 ล้านคน เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีกำลังซื้อสูง ส่งผลให้ในไตรมาส 4/2565 ภาพรวมอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) ของโรงแรมในเครือ AWC อยู่ที่ 63.5% และมีราคาห้องพักเฉลี่ยต่อวัน (ADR) อยู่ที่ 5,697 บาทต่อคืน เพิ่มขึ้นกว่า 45.7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

shutterstock 2207843707

ทั้งนี้ บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า คาดจะเห็นผลประกอบการของธุรกิจโรงแรมที่แข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาส 1/66 หนุนมาจากอุตสาหกรรมนักท่องเที่ยวและธุรกิจไมซ์ “MICE” โดย AWC จะได้รับประโยชน์เต็มที่ จากพื้นที่ว่างให้เช่า และคาดจะเห็นอัตราการเช่าที่สูงขึ้นสำหรับทุกที่

นอกจากนี้ บริษัทยังมีปัจจัยบวกของจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมา เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ มากขึ้นในไตรมาส 2/2566 โดยมีจุดดึงดูดมาจากการร่วมมือกับดิสนีย์

ขณะเดียวกัน AWC มีภาพการเติบโตในอนาคตที่ชัดเจน โดยมีแผนจะเห็น 13 โรงแรมที่จะเปิดตัวทั่วประเทศไทยในปี 2566 – 2569  น่าจะเห็นอัตราการเติบโตสะสมเฉลี่ยของกำไรที่ 67% จึงแนะนา “ซื้อ” สำหรับการลงทุนระยะยาว ราคาเป้าหมายที่ 6.80 บาทต่อหุ้น

ซื้อขายรร.ไทย

AWC ปิด 3 ดีลใหญ่มูลค่าสูงสุดในไทย

จากการสำรวจข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า  AWC เป็นบริษัทที่ซื้อโรงแรมมากที่สุดในประเทศไทยของปี 2565 ประกอบด้วยดีลใหญ่ 3 รายการ เป็นมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 9,790 ล้านบาท ประกอบด้วย

1. dusitD2 Chiang Mai

2. Grand Mercure Bangkok Windsor

3. Westin Siray Bay Phuket

นอกจากนี้ AWC ยังได้ลงนามสัญญาร่วมทุนและจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท เอดับบลิวซี ฮอสปิทอลลิตี้ เดเวลอปเมนท์ จำกัด (AWC Hospitality Development Co., Ltd.) เพื่อเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจโรงแรมที่มีศักยภาพในแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศไทย โดย AWC มีแผนเพิ่มทุนรวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 10,800 ล้านบาทอีกด้วย

ข้อมูลจากงานวิจัยของบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล ระบุว่า ในปี 2565 มีการซื้อขายโรงแรมที่มีคุณภาพ เกิดขึ้นในประเทศไทยรวมทั้งสิ้น 14 รายการ คิดเป็นมูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท

shutterstock 2223747079

ถือได้ว่าเป็นอีกปีที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงจากปัจจัยต่างๆ เช่น การที่เจ้าของโรงแรมหลายรายพยายามรักษาโรงแรมของตนไว้ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ทำให้กำลังพบกับความท้าทายมากขึ้น เนื่องจากสถาบันการเงินเริ่มลดนโยบายการประนอมหนี้ ประกอบกับการที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น พร้อมกันนี้ยังมีแรงหนุนของภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากจีนกลับมาเปิดประเทศ ทำให้กลุ่มนักลงทุนมีความสนใจที่จะเข้าซื้อโรงแรมคุณภาพดี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน