Stock

จัดพอร์ตหุ้นเลือกตั้ง ปี 2566!!

ภายใต้บรรยากาศทางการเมืองที่กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง นับถอยหลังสู้ศึกเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง ประเมินว่าการเลือกตั้งทั่วไป น่าจะเกิดขึ้นได้ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2566

แน่นอนว่าเมื่อมีการเลือกตั้ง ย่อมส่งผลต่อทิศทางการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง หนึ่งในนั้นก็คือความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย และบรรยากาศการลงทุนที่มักจะคึกคักตามไปด้วย

จากสถิติที่ผ่านมา ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งมักจะส่งผลบวกต่อดัชนีตลาดหุ้นไทย นับตั้งแต่ปี 2535 มีการเลือกตั้ง 9 ครั้ง ข้อมูลในอดีตบ่งชี้ว่าการเลือกตั้งส่งผลต่อความเคลื่อนไหวของหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญ ครอบคลุมช่วงเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ คือ 2 สัปดาห์ก่อนหน้า และ 1 สัปดาห์หลังการเลือกตั้ง ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว SET Index ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 6%

shutterstock 744068803 2

อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งปี 2566 อาจไม่เหมือนในอดีตเลยทีเดียว เพราะประเทศไทยห่างหายจากการเลือกมา 8 ปีเต็ม เพราะฉะนั้น จึงอาจเกิดความคาดหวังสูงกว่าครั้งก่อนๆ ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น พร้อมเพิ่มอานิสงส์เชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยนั่นเอง

เอเซีย พลัส เปิดกลุ่มอุตสาหกรรมเด่นรับเลือกตั้ง

ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า หากยึดเวลาครบวาระของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กำหนดแผนจัดการเลือกตั้งทั่วไปจะตรงกับวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 แต่ถ้ามีการยุบสภา ต้องกำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปตั้งแต่ 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน แสดงว่าปัจจุบันเหลือเวลาประมาณ 3 เดือนเศษ ที่จะมีการจัดเลือกตั้ง

จากการศึกษากลุ่มอุตสาหกรรมและหุ้นที่มักจะโดดเด่นกว่า (Outperform) ในช่วง 3 เดือนก่อนการเลือกตั้งในช่วงปี 2544 – 2562 กลุ่มหุ้นที่โดดเด่น คือ สื่อสารและโทรคมนาคม, สื่อ, พาณิชย์, อาหาร, ไฟแนนซ์, วัสดุก่อสร้าง, ธนาคาร และรับเหมาก่อสร้าง

LINE ALBUM เลือกตั้งกทม ๒๒๐๔๒๘ 0 2

โนมูระ พัฒนสิน คัด 12 หุ้นโตระยะยาว

บล.โนมูระ พัฒนสิน มองการเลือกตั้งเป็นจิตวิทยาเชิงบวก และหุ้นที่มัก Outperform ก่อนการเลือกตั้ง 1-3 เดือน รวมถึงจะเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ หลังการปรับปรุงโครงสร้างภาษี โครงสร้างพื้นฐาน โครงสร้างรายได้ ซึ่งจะหนุนภาพรวมเศรษฐกิจไทยเติบโตในระยะยาว นำโดยหุ้น KBANK, SCB, ADVANC, INTUCH, SC, AMATA, SIRI, CPALL,MAKRO, KTC, MINT, BEC

หยวนต้า แนะเก็งกำไรหุ้นสร้างสีสันการเมือง

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เชื่อว่าจะเป็นจังหวะเวลาแรงเก็งกำไรหุ้นที่มีความเชื่อมโยงกับการเมือง เช่น SC, SIRI, PR9, STEC, STPI, TKS ขณะที่กลุ่มที่มักปรับตัวขึ้นได้ดี คือ ธนาคารพาณิชย์ ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง รวมถึงกลุ่มอาหารเครื่องดื่มและไฟแนนซ์ ที่แม้ไม่มีความสัมพันธ์เชิงสถิติ แต่การแข่งขันระหว่างพรรคการเมืองใหญ่ที่รุนแรง ทำให้จะได้แรงหนุนจากการบริโภคที่เร่งตัวขึ้นตามไปด้วย

shutterstock 227930497

อินโนเวสท์ เอกซ์ เน้นรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ให้ความเห็นว่าตลาดหุ้นไทยยังมีอัพไซด์จำกัด จากแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2565 ของ real sector ที่คาดจะออกมาอ่อนแอ และมี Valuation ตึงตัว จึงแนะนำให้ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยเน้นรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ไม่ไล่ราคา สำหรับหุ้นที่จะได้รับอานิสงส์เม็ดเงินสะพัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจากการเข้าใกล้สู่ช่วงเลือกตั้ง ได้แก่ BEC, CENTEL, CPN, MAJOR

ต้องบอกว่าการเลือกตั้ง ถือเป็นประเด็นที่นักลงทุนต่างเฝ้าติดตามกันอย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้วางกลยุทธ์เพิ่มโอกาสกำไร ทว่าสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือหน้าตาของรัฐบาลชุดใหม่ ที่จะเกิดขึ้นว่าจะเป็นอย่างไร มีเสถียรภาพมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่มีสำคัญมากกว่าต่อบรรยากาศการลงทุนในอนาคต

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน