Stock

สำรวจ ‘หุ้นแบตเตอรี่ EV’ กำลังการผลิตเกิน 1 GWh

ปี 2566 นี้ น่าจะเป็นอีกปีที่เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างนัยสำคัญ ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ สถานีชาร์จ และอีกหนึ่งกลุ่มที่มองข้ามไม่ได้ก็คือ ผู้ผลิตแบตเตอรี่ เพราะมีโอกาสได้รับการส่งเสริมพิเศษจากภาครัฐ

ก่อนหน้านี้ เคยมีการพูดคุยเบื้องต้นว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ เตรียมไฟเขียวมาตรการส่งเสริม ผู้ผลิตแบตเตอรี่ ในประเทศไทย โดยจะให้เงินสนับหนุนจำนวน 600 ล้านบาท แก่ผู้ผลิตแบตเตอรี่ที่มีกำลังผลิต 1GWh เพื่อให้สามารถแข่งขันด้านราคา กับผู้ผลิตในต่างประเทศได้

แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเคาะมาตรการดังกล่าวออกมาชัดเจน จึงต้องติดตามความคืบหน้ากันต่อไป

shutterstock 1987037354

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับอัพไซด์ที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นในอนาคต เราจึงได้ทำการสำรวจข้อมูลในตลาดหุ้นไทย พบว่า บริษัทที่เข้าข่ายมีกำลังการผลิตแบตเตอรี่ในระดับ 1 GWh หรือมีความสามารถที่จะยกระดับไปถึงจุดนั้น ประกอบด้วย 3 บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ ได้แก่ EA GPSC และ BPP

EA หรือ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ถือเป็นผู้นำร่องธุรกิจแบตเตอรี่ในประเทศไทย โดยมีธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นโรงงานแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า การผลิตเรือไฟฟ้า และการให้บริการสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า

นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนในธุรกิจแบตเตอรี่ผ่านบริษัทย่อยในต่างประเทศ Amita Taiwan (EA ถือหุ้นราว 70.0%)

GPSC หรือ บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ Flagship ในธุรกิจโรงไฟฟ้าและแบตเตอรี่ของกลุ่มปตท. โดยกำลังลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนในประเทศไทย ซึ่งกำหนดเป้าหมายให้เป็น New S-Curve ของบริษัท

เริ่มต้นโครงการนำร่อง (Pilot Project) จำนวน 30 MWh ด้วยเทคโนโลยี Semi-Solid ซึ่งเป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ของ บริษัท 24M Technologies (GPSC ถือหุ้น 18%) ที่ช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการผลิต และประหยัดต้นทุนลงได้

BPP หรือ บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันเข้าถือหุ้น 50% ในบริษัทย่อย BANPU NEXT ที่ลงทุน 47.0% ใน บริษัท Durapower Holdings Pte Ltd., ประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ผลิต และติดตั้งระบบแบตเตอรี่จัดเก็บพลังงาน อีกทั้งบริษัทอยู่ระหว่างการลงทุนโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในประเทศไทย

shutterstock 1297860037

วิเคราะห์จากข้อมูลตอนนี้ หุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์สูงสุด คือ EA เนื่องจากมีการลงทุนในโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และระบบกักเก็บพลังงานในประเทศอยู่แล้ว ปัจจุบันมีกำลังการผลิตราว 1 GWh และกำลังมีแผนขยายกำลังการผลิตเป็น 2 GWh ภายในช่วงสิ้นปีนี้ รวมทั้งมีเป้าหมายระยะยาวที่จะเพิ่มเป็น 4 GWh ภายในช่วงปลายปี 2566

ขณะที่หุ้น GPSC ปัจจุบันลงทุนโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ในรูปแบบโครงการนำร่อง และยังอยู่ระหว่างการขยายกำลังผลิตแบตเตอรี่เป็น 1GWh สุดท้ายคือหุ้น BPP อยู่ระหว่างการลงทุนสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ระยะที่ 1 กำลังผลิตราว 200MWh

ถือว่าเป็นกลุ่มที่น่าจับตามองมากสำหรับ หุ้นแบตเตอรี่ ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากการเติบโตสอดคล้องไปกับเมกะเทรนด์ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่ง สำนักงานพลังงานสากล (International Energy Agency) คาดการณ์ว่าในปี 2573 ทั่วโลกจะมีรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งบนถนนมากถึง 145 ล้านคัน

ขณะที่ประเทศไทยเอง คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ก็ตั้งธงไว้ว่าภายในปี 2578 เตรียมยกเลิกการขายรถยนต์น้ำมัน พร้อมสนับสนุนให้ไทยกลายเป็นศูนย์กกลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลก

shutterstock 1437585806

คงปฏิเสธไม่ได้แล้วล่ะว่าเมกะเทรนด์นี้กำลังมาจริง ๆ เพราะตอบโจทย์ทั้งเรื่องความคุ้มค่าในการใช้งาน การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมถึงโอกาสในการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) ของประเทศ

ดังนั้น ใครที่ไม่อยากพลาดโอกาสการลงทุน คงต้องจับตาหุ้นที่เกี่ยวข้องในกลุ่มต่าง ๆ ไว้ให้ดี ซึ่งก็มีให้เลือกทั้งกลุ่มผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน รวมไปถึงผู้ให้บริการสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า ผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบยานยนต์ ผู้ผลิตแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และผู้ประกอบรถโดยสาร EV Car

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน