หุ้นแนะนำไตรมาส 1/66 ออมแบบ “DCA” เป็นการทยอยลงทุนด้วยเงินจำนวนเท่ากันทุกงวด เพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว ลดความเสี่ยงจากตลาดที่เต็มไปด้วยความผันผวน
อยากเริ่มออมหุ้นสม่ำเสมอด้วยวิธีการลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Averaging) ที่เป็นการทยอยลงทุนด้วยเงินจำนวนเท่ากันเป็นประจำทุกงวด เพื่อมุ่งหวังสร้างผลตอบแทนในระยะยาว และลดความเสี่ยงจากตลาดที่เต็มไปด้วยความผันผวน
วันนี้เราจึงได้คัดหุ้นพื้นฐานดีสำหรับออมหุ้นแบบ DCA ประจำช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 อ้างอิงข้อมูลจากบทวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย ซึ่งประกอบด้วย 5 หุ้นเด่น ได้แก่ BGRIM, CBG, CPN, LH และ SNNP โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. BGRIM หรือ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)
ราคาเป้าหมายทางพื้นฐาน 63.50 บาทต่อหุ้น
BGRIM เป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าประเภท SPP คิดเป็น 70 – 75% ของสัญญา PPA ทั้งหมด ทำให้บริษัทจะได้ประโยชน์โดยตรงจากการปรับขึ้นค่า Ft จึงคาดกำไรไตรมาส 4/65 จะฟื้นตัวเด่นจากไตรมาสที่ผ่านมา เพราะราคาก๊าซธรรมชาติลดลง และรับรู้การปรับขึ้นค่า Ft ที่ 93.43 สตางค์ เข้ามาเต็มไตรมาส ประกอบกับผลกำไจากอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินบาทแข็งค่า ขณะที่ประเมินกำไรปี 2566 ฟื้นตัวเด่นหลังรัฐบาลปรับ Ft สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ เป็นอัตรา 190.44 สตางค์ต่อหน่วย ในเดือนมกราคม -เมษายน 2566 ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าคือกลุ่ม Defensives ท่ามกลางความกลัวเศรษฐกิจโลกถดถอย รวมถึงยังได้ประโยชน์จาก Bond yields ที่ปรับลดลงอีกด้วย
2. CBG หรือ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ราคาเป้าหมายทางพื้นฐาน 98.70 บาท
คาดว่ากำไรไตรมาส 4/65 จะฟื้นตัวเด่นจากไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบ ได้แก่ อลูมิเนียมและก๊าซธรรมชาติปรับลดลง ขณะที่ยอดขายในประเทศและต่างประเทศฟื้นตัว อีกทั้งมีปัจจัยหนุนการเติบโตในปี 2566 จากจุดแข็งเรื่องแบรนด์ของเครื่องดื่มชูกำลัง การบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวหนุนจากภาคการท่องเที่ยวและรายได้ภาคเกษตรยังทรงตัวสูง ส่วนยอดขายในต่างประเทศก็ฟื้นตัวขึ้นทั้งในกลุ่มประเทศ CLMV การขยายตลาดไปยังเวียดนาม และอัตรากำไรที่ดีขึ้น
3. CPN หรือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
ราคาเป้าหมายทางพื้นฐาน 74.25 บาท
การเติบโตในระยะกลางและยาวมีความชัดเจน โดย CPN ประกาศแผนธุรกิจ 5 ปี ขยายพื้นที่เช่า 100% ซึ่งเตรียมลงทุนจำนวน 120,000 ล้านบาท และเพิ่มจำนวนโครงการเป็น 2 เท่า เป็น 186 โครงการ ภายในปี 2569 นอกจากนี้ จะมีปัจจัยหนุนจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เร็วกว่าคาด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่จะเริ่มเปิดประเทศในเดือนมกราคมนี้
4. LH หรือ บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
ราคาเป้าหมายทางพื้นฐาน 10.40 บาท
ถือเป็นหนึ่งในหุ้นปันผลสูงที่ให้ Dividend Yields ราว 6.50% และอยู่ในหุ้นธีม reopening จากห้าง Terminal 21 และการกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่ยอดขายบ้านเดี่ยวเน้น High segment กลุ่มรายได้สูง ทำให้ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อที่สูงในเวลานี้ค่อนข้างจำกัด อีกทั้งมีโอกาสที่รัฐบาลจะสนับสนุนให้ชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสามารถเข้ามาซื้อบ้านเดี่ยวในโครงการจัดสรรได้ด้วย
5. SNNP หรือ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน)
ราคาเป้าหมายทางพื้นฐาน 29.30 บาท
คาดว่ากำไรไตรมาส 4/65 เติบโตทั้ง QoQ และ YoY และทำจุดสูงสุดใหม่จากยอดขายที่เติบโตดีทั้งในประเทศ และในตลาด CLMV จากฤดูกาลท่องเที่ยว ฟุตบอลโลก และโรงงานใหม่ที่เวียดนามเริ่มเปิดดำเนินการผลิตในเฟสแรก ทั้งนี้ คาดกำไรปกติปี 2564 – 67 เติบโตเฉลี่ย 44% จากแรงหนุนของการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ การเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในเวียดนาม และกัมพูชา รวมถึงอัตรากำไรที่ดีขึ้นจากการปรับ produt mixed และต้นทุนวัตถุดิบเริ่มปรับลดลงในปีหน้า
DCA ถือเป็นแนวทางการลงทุนที่ดี และเหมาะกับทุกคนที่มีเป้าหมายลงทุนระยะยาว แต่ข้อควรระวังการลงทุนแบบ DCA คือเราต้องเข้าใจว่าไม่ใช่วิธีที่จะทำกำไรได้เสมอ เพราะมีความเสี่ยงในการถัวเฉลี่ยหุ้นผิดตัว และถ้าจะออมหุ้นรายตัว ไม่ควรออมในหุ้นเพียงตัวเดียว ต้องมีการกระจายความเสี่ยงด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 10 ความเข้าใจผิด! ที่คนส่วนใหญ่ยัง ‘ไม่รู้’ เมื่อต้องยื่นภาษี!
- แนะนำ ’10 หุ้นปันผล’ ทำผลงานโดดเด่นในทุกไตรมาสแรก
- อัปเดต 4 ธีมการลงทุนอย่างยั่งยืนที่น่าสนใจในปี 2566 เช็กเลย!
