ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (4 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิน โดยที่ “ดาวโจนส์” ปรับตัวขึ้นกว่า 100 จุด ขานรับ “ธนาคารกลางสหรัฐ” ส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย เพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,269.77 จุด เพิ่มขึ้น 133.40 จุด หรือ +0.40% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,852.97 จุด เพิ่มขึ้น 28.83 จุด หรือ +0.75% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 10,458.76 จุด เพิ่มขึ้น 71.78 จุด หรือ +0.69%
คณะกรรมการกำหนดนโยบายธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 13-14 ธันวาคม 2565 ที่ระบุว่า กรรมการเฟดมีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับเงินเฟ้อ และคาดว่าจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไป จนกว่าข้อมูลที่เฟดได้รับมานั้น เป็นหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอว่า เงินเฟ้อกำลังกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้นได้ อาจจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
อย่างไรก็ดี กรรมการทุกคนมีความเห็นตรงกันว่า เฟดควรชะลอการขึ้นดอกเบี้ย โดยจะยังขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แต่จะดำเนินการในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ
หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์พุ่งขึ้น 2.28% และดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุปรับตัวขึ้น 1.74%
ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อ่อนแรงลงในช่วงสั้น ๆ หลังเฟดเปิดเผยรายงานประชุม ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นมาปิดบวก 0.26% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย พุ่งขึ้น 1.9%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จับตา ‘หุ้นเทคโนโลยี’ มาแรงปี 2566
- จับตา ‘ค่าเงินโลก’ 2566 ส่อแววผันผวน ‘ดอกเบี้ย-เงินเฟ้อ’ ปัจจัยเกาะติดตลาด
- จะลงทุนต้องอดทน! จับตาราคาทองคำปี 2566 เริ่มต้นลำบาก ก่อนปิดท้ายปีอย่างสดใส