เรื่องน่ารู้ WARRIX แบรนด์เสื้อผ้ากีฬา ที่เตรียมเข้าตลาดหุ้นช่วงเดือนธันวาคม 2565 พร้อมจุดเด่นการลงทุน
เมื่อกวาดสายตามองตลาดหุ้นไทย เราจะเห็นว่ายังไม่มีบริษัทไหนที่มุ่งเน้นประกอบธุรกิจด้านกีฬาและสุขภาพแบบเต็มตัวเลย ทว่าล่าสุดกำลังจะมีหุ้นน้องใหม่ที่ชื่อว่า WARRIX หรือ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจจำหน่ายเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาชั้นนำในประเทศไทย โดยมีแผนเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงเดือนธันวาคม 2565
สำหรับใครที่สนใจในธุรกิจนี้ของ WARRIX บทความนี้เราได้สรุปเป็น 10 เรื่องน่ารู้มาฝากให้อ่านกันแบบง่ายๆ แล้วครับ
WARRIX ทำธุรกิจอะไร
WARRIX มีจุดเริ่มต้นจากการจำหน่ายเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬามาตั้งแต่ปี 2556 โดยช่วงเริ่มต้นบริษัทใช้โมเดลธุรกิจแบบ Sport Licensing จากการเข้าไปสนับสนุนสโมสรฟุตบอลระดับภูมิภาค ขยายสู่สโมสรระดับประเทศ ก่อนที่โตอย่างก้าวกระโดดด้วยการได้รับสิทธิ์เป็นผู้ผลิตเสื้อผ้าฟุตบอลทีมชาติไทยตั้งแต่ปี 2560 ไปจนถึงปี 2571
ทำให้แบรนด์ “วอริกซ์” WARRIX เป็นที่รู้จักของแฟนฟุตบอลและนักกีฬาเป็นอย่างมาก และได้ต่อยอดสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและไลฟ์สไตล์มากขึ้น ปัจจุบันสินค้าของ WARRIX แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่
1. สินค้า Licensed Product คือ สินค้าลิขสิทธิ์ต่างๆ เข่น ฟุตบอลทีมชาติไทย ทีมชาติต่างประเทศ ทีมสโมสรฟุตบอล สมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย และสินค้าสำหรับองค์กร สถานศึกษา กิจกรรมต่างๆ เป็นต้น
2. สินค้า Non – Licensed Product เป็นสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันและปรับเปลี่ยนตามแฟชั่น ประกอบด้วย สินค้าคอลเลคชั่น (Collection) สินค้าคลาสสิค (Classic) สินค้าทำตามคำสั่ง (Made to Order) และสินค้าอื่นๆ
WARRIX ยังมีบริการด้านสุขภาพ ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา Warrix Physiotherapy & Performance Studio สำหรับการพัฒนาศักยภาพนักกีฬาอาชีพและบุคคลทั่วไปอย่างถูกวิธี โดยมีนักกายภาพที่ได้รับใบอนุญาตให้บริการอย่างมืออาชีพ ปัจจุบันมี 2 สาขาที่ Stadium One และศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
จุดเด่นการลงทุนของ WARRIX
1. ผู้บริหารและทีมงานมีความเชี่ยวชาญเรื่องนวัตกรรมเส้นใยและการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
2. มีพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง จากการได้รับสิทธิสนับสนุนฟุตบอลทีมชาติไทยมาอย่างยาวนาน
3. มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้โดยตรง ประกอบด้วย ร้านค้าทั่วไป ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ งานโครงการ (Project Base) ช่องทางออนไลน์ ร้านค้าของบริษัท สัญญาสนับสนุนต่างๆ และ 6) งานจัดรายการสินค้า งานแสดงต่างๆ และการขายอื่นๆ
4. ให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูล หรือ Data Driven with Marketing Strategy เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานตั้งแต่ต้นจนจบ
รายได้และกำไรดีแค่ไหน
ผลประกอบการย้อนหลังของ WARRIX เป็นดังนี้
ปี 2562 รายได้รวม 700.12 ล้านบาท กำไรสุทธิ 12.01 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้รวม 661.90 ล้านบาท กำไรสุทธิ 12.74 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้รวม 658.09 ล้านบาท กำไรสุทธิ 14.24 ล้านบาท
9 เดือนปี 2565 รายได้รวม 698.48 ล้านบาท กำไรสุทธิ 65.41 ล้านบาท
พบว่าช่วงปี 2562 – 2564 รายได้ปรับลดลงต่อเนื่อง เพราะการเกิดโควิด-19 ทำให้การขายสินค้าผ่านช้อป ห้างสรรพสินค้า และกิจกรรมต่างๆ ได้รับผลกระทบ แต่บริษัทยังสามารถรักษาผลกำไรให้เติบโตได้ดีอยู่ จากการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ
ส่วนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 WARRIX กลับมาโตอย่างก้าวกระโดด มีรายได้รวม 697.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.82% จากช่วงปีก่อน และกำไรสุทธิสูงถึง 65.41 ล้านบาท เป็นผลของกระแสดูแลสุขภาพและออกกำลังกาย การจัดแข่งขันกีฬาทั้งในประเทศและต่างประเทศ และความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นจากการปรับราคาขายสินค้า การออกคอลเลคชั่นใหม่ๆ รวมไปถึงการบริหารจัดการด้านการจัดซื้อและบริหารสินค้าด้วยข้อมูล
กลยุทธ์สร้างการเติบโต
WARRIX ตั้งเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำธุรกิจ Sport – Health & Lifestyle แบบครบวงจรของประเทศไทย ละพัฒนาแบรนด์ไทยสู่ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ผ่านกลยุทธ์พัฒนาธุรกิจ 5 ด้านหลัก
1. Sport ขยายไลน์เสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น เช่น วิ่ง เทรนนิ่ง กอล์ฟ บาสเกตบอล เทเบิลเทนนิส และรองเท้า
2. Active & Lifestyle ขยายผลิตภัณฑ์ไปสู่สตรีทแวร์ ยีนส์ เสื้อชั้นใน และผลิตภัณฑ์คัตตอน
3. Health เน้นโครงการด้านสุขภาพในรูปแบบศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา โดยมีโครงการขยายไปที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ “Warrix Run Hub” และบริเวณถนนพระรามเก้า
4. Explorer ขยายฐานลูกค้าโดยนำประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับด้านกีฬามาจัดงานอีเวนท์ต่างๆ ในหลายรูปแบบ
5. D.OASIS (Web 3.0) ศึกษาและเตรียมความพร้อมเข้าสู่ธุรกิจโลกเสมือนภายใต้ The Sandbox Metaverse เพื่อเสริมสร้าง Brand Awareness
การเสนอขายหุ้น IPO ของ WARRIX
WARRIX จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 180 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 0.50 บาท คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด กำหนดราคาเสนอขายที่ 6.30 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าการเสนอขายรวม 1,134 ล้านบาท
ภายหลังการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทวางแผนจะนำเงินไปใช้ลงทุนในโครงการก่อสร้างศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาและสำนักงาน ถนนพระราม 9 ในปี 2566-2567 คาดว่าจะใช้เงินลงทุนอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายกิจการและดำเนินการโครงการต่างๆ ในอนาคต โดยเตรียมเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 21 ธันวาคม 2565
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สารัชถ์’ เศรษฐีหุ้นไทยขึ้นแท่น แชมป์ 4 ปีซ้อน รวยทะลุ 2 แสนล้านบาท
- หุ้นไทยไตรมาส 3/65 ส่องบริษัทที่ทำกำไรสูงสุด!!
- อัปเดต 4 ธีมการลงทุนอย่างยั่งยืนที่น่าสนใจในปี 2566 เช็กเลย!
