Personal Finance

มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ฯ สงขลา คนแห่ขอใช้บริการกว่า 5,000 ล้าน รวม 5 ครั้งทะลุ 2.4 หมื่นล้าน

กระทรวงการคลัง เผยผลการจัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ฯ ครั้งที่ 5 จังหวัดสงขลา มีผู้ขอรับบริการกว่า 5,000 ล้านบาท รวมจัดงาน 5 ครั้ง ยอดขอแก้หนี้พุ่ง 2.4 หมื่นล้านบาท

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การจัด มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 27-29 มกราคม 2566 ที่จังหวัดสงขลา ได้รับความสนใจจากประชาชนและผู้ประกอบการ รวมทั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นจำนวนมาก

มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ฯ

ทั้งนี้พบว่า มีจำนวนรายการที่ขอรับบริการภายในงานมากกว่า 5,700 รายการ คิดเป็นจำนวนเงินมากกว่า 5,000 ล้านบาท

การจัดงานดังกล่าว ได้รับเกียรติจากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานและเยี่ยมชมงาน พร้อมกล่าวปาฐกถาถึงปัญหาที่ประชาชนและผู้ประกอบการต้องประสบในช่วง 2 ปี
ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปัญหาต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ปัญหาเงินเฟ้อ

จากปัญหาดังกล่าว ทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการ มีรายได้ที่ลดลงจนไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ รัฐบาลซึ่งนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชน และผู้ประกอบการ  และกำหนดให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชนเป็นวาระแห่งชาติ

ดังนั้น เพื่อตอบสนองต่อนโยบายดังกล่าว กระทรวงการคลัง จึงกำหนดให้เป็นภารกิจของสถาบันการเงินของรัฐทั้ง 7 แห่ง และธนาคารพาณิชย์ ที่ต้องร่วมมือกันแก้ไขหนี้อย่างครอบคลุมและตรงจุด เพื่อให้ประชาชนสามารถหลุดพ้นจากกับดักหนี้สินได้ในระยะยาว

แก้หนี้ 1

สำหรับผลของการจัดงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ฯ สัญจร รวมทั้งสิ้น 5 ครั้ง ได้รับความสนใจจากประชาชนและผู้ประกอบการจำนวนมาก โดยมีจำนวนรายการที่ขอรับบริการมากกว่า 34,000 รายการ คิดเป็นจำนวนเงินมากกว่า 24,000 ล้านบาท ประกอบด้วย

  • การขอรับคำปรึกษาด้านการเงินและแนวทางในการประกอบอาชีพ จำนวนมากที่สุดกว่า 13,000 รายการ ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่จะส่งผลให้การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนประสบความสำเร็จในระยะยาว รองลงมา คือ
  • การขอแก้ไขปัญหาหนี้สินที่มีอยู่เดิมกว่า 10,000 รายการ
  • การขอสินเชื่อเพิ่มเติมกว่า 4,000 รายการ
  • การเข้าร่วมกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์เงินฝากเพื่อส่งเสริมการออม การตรวจข้อมูลเครดิตโดยบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด การจำหน่ายทรัพย์ NPA จากทั้งสถาบันการเงินและบริษัทเอกชน เป็นต้น ประมาณ 7,000 รายการ

นอกเหนือจากการจัดมหกรรมรูปแบบสัญจรแล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ร่วมมือกับสมาคม
สถาบันการเงินต่าง ๆ และผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน จัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้รูปแบบออนไลน์ ซึ่งเป็นการลงทะเบียนเพื่อขอแก้ไขหรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ผ่านระบบออนไลน์ และได้รับความสนใจจากประชาชนและผู้ประกอบการเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน

แก้หนี้ 2

จากข้อมูล ณ วันที่ 30 มกราคม 2566 มีผู้ลงทะเบียนเพื่อขอแก้ไข หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ผ่านระบบออนไลน์มากกว่า 1.85 แสนราย คิดเป็นจำนวนรายการสะสมมากกว่า 4.07 แสนรายการ ประกอบด้วย

  • ลูกหนี้ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 35%
  • ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 30%
  • ภาคอื่น ๆ 35%

ส่วนประเภทสินเชื่อที่มีการลงทะเบียนสูงสุด คือ บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล 75% สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 6% สินเชื่อรายย่อยอื่น 5% สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 4% สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ 4% และสินเชื่อประเภทอื่น ๆ 6%

นอกจากนี้ แม้ว่าการจัดงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ฯ จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่การแก้ไขปัญหาหนี้สินให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และมีเป้าหมายที่จะขยายผลการแก้หนี้ลงไปเฉพาะกลุ่ม โดยร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแก้หนี้สินครู และกระทรวงแรงงาน เพื่อช่วยเหลือหนี้ให้กับกลุ่มแรงงาน

พรชัย ฐีระเวช 1710651
นายพรชัย ฐีระเวช

กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ผลักดันให้สถาบันการเงินทุกแห่ง ให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือประชาชน และผู้ประกอบการ โดยเร่งรัดให้สถาบันการเงิน ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้แก่ลูกหนี้ตามแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืน ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด

นอกจากนี้ ลูกหนี้สามารถเข้าร่วม โครงการคลินิกแก้หนี้ ทางเว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com หรือ www.debtclinicbysam.com ทาง Line @debtclinicbysam หรือทางหมายเลขโทรศัพท์ 1443 ซึ่งช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่เป็นหนี้ค้างชำระบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ให้ได้รับสิทธิลดดอกเบี้ยและไม่เสียประวัติในฐานข้อมูลเครดิตหากจ่ายค่างวดไม่ได้เต็มจำนวน

ขณะเดียวกัน ยังมี โครงการหมอหนี้เพื่อประชาชน ทางเว็บไซต์ https://www.bot.or.th/app/doctordebt/ ทาง Line @doctordebt หรือทางหมายเลขโทรศัพท์ 1213 เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการแก้ไขหนี้รายย่อยและธุรกิจ

ดังนั้น ประชาชนและผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาหนี้สิน สามารถติดต่อขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้ได้ที่สาขาของสถาบันการเงินทุกแห่งทั่วประเทศ หรือเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ได้เช่นกัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo