Finance

ลุ้นระทึก!! ‘กอบศักดิ์’ ชวนลุ้นเฟดจะตัดสินใจอย่างไร แนะจับตาพิเศษ 4 ปัจจัย

ลุ้นระทึก!!  เฟดจะตัดสินใจอย่างไร “กอบศักดิ์ ภูตระกูล” แนะจับตา 4 ประเด็นหลักที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL)  โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว กอบศักดิ์ ภูตระกู ว่ามาลุ้นกัน วันสุกดิบ !!!
คืนวันนี้ จะเป็นคืนที่ทุกสายตาจับจ้องไปที่เฟด ลุ้นว่า เฟดจะตัดสินใจอย่างไร

ท่านประธานเฟดจะพูดอะไร จะสายเหยี่ยวแค่ไหน นำมาซึ่งความผันผวนในตลาดหุ้น ตลาดการเงิน ตลาดคริปโต อีกมากน้อยแค่ไหน

ตลาด price in ทิศทางดอกเบี้ยเฟดพอแล้วหรือไม่ ต้องเพิ่มอีกเท่าไหร่ เพราะในช่วงสั้นๆ จากกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Bitcoin ได้ลดลง 20% จาก 25,000 ดอลลาร์/เหรียญ ไปต่ำกว่า 19,000
Ethereum ลดลง 30% จาก 2,000 ดอลลาร์/เหรียญ ลงมาใกล้ๆ 1,300 หุ้นในตลาดต่างๆ ก็ลดลงมารอ Dow Jones ลดลงมา 10% จาก 3,400 จุด มาต่ำกว่า 3,100 จุด
Nasdaq ลดลง 13% จาก 13,100 จุด มาที่ 11,500 จุด ดัชนีค่าเงินดอลลาร์เพิ่มจาก 105 มา 110

shutterstock 2195033431

สำหรับตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ นับนานขึ้นอีกนิด จากต้นเดือนสิงหาคม ดอกเบี้ยพันธบัตรอายุ 2 ปี เพิ่ม +1.07% จาก 2.87% มาที่ 3.94% ดอกเบี้ยพันธบัตรอายุ 5 ปี เพิ่ม +1.09% จาก 2.63% มาที่ 3.72% ซึ่งทั้งหมดต้องบอกว่าเป็นการปรับตัวที่ “ไม่ธรรมดา” เพราะเกิดในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงประมาณ 1 เดือน
สำหรับคืนนี้ มี 4 ประเด็นหลักๆ ที่เราต้องจับตามองเป็นพิเศษ

ประเด็นแรก – เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเท่าไร

ระหว่าง +0.75% ตามที่ตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์กันว่ามีโอกาสที่ 82% ที่จะออกที่ทางเลือกนี้
หรือจะ Surprise ตลาดด้วย +1.00% ที่สำคัญเช่นกันในประเด็นนี้ ก็คือ เสียงเอกฉันท์ไหม เสียงที่แตก แตกไปในทิศทางไหน

ประเด็นที่สอง – Dot Plot หน้าตาเป็นอย่างไร

เพราะจะมีนัยยะกับระดับดอกเบี้ยระยะยาวที่ตลาดคาด จากที่เคยส่งสัญญาณว่าจะสูงสุด 3.8% จะต้องเพิ่มไปอีกเท่าไหร่
ตลาดที่ล่าสุดคาดการณ์เพิ่มไปเป็น 4.47% ใน 6 เดือนข้างหน้านั้น ถือว่าพอแล้วหรือยัง และจะมีนัยยะกับขนาดของการขึ้นดอกเบี้ยครั้งถัดไป ว่าจะเป็นเท่าไหร่
เพราะยังเหลืออีกเพียง 2 ประชุม นักลงทุนสามารถเอา 2 หารระดับดอกเบี้ยปลายปี 2565 ใน Dot Plot แล้วประเมินคร่าวๆ ว่า การประชุมที่เหลือแต่ละครั้ง เฟดจะต้องขึ้นอีกเท่าไหร่
เพราะถ้ายังมีอีก +1.0% ใน 2 การประชุมที่เหลือ ตลาดก็จะดีใจในประเด็นนี้ ที่ความแรงของการจ่ายยาของเฟดได้ลดลงแล้ว แต่ถ้าเกินนั้น ก็หมายความว่าจะต้องมี +0.75% อีกครั้ง

นอกจากนี้ ท่านประธานเฟดจะเปลี่ยนใจหรือไม่ จากที่บอกครั้งที่แล้วว่า จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พูดเรื่องดอกเบี้ยในครั้งถัดไป กลับมาให้ทิศทางต่อ ว่ากรรมการคิดว่า ดอกเบี้ยจะเพิ่มอีกเท่าไร ในการประชุมครั้งหน้า เพราะหลังจากการประชุมคืนนี้ ระดับดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐจะเข้าสู่ช่วงใหม่ ได้ผ่านช่วง Neutral Zone ไปยังช่วง Restrictive ที่จะ “ฉุดรั้ง” “ชะลอ” เศรษฐกิจ
การเพิ่มยาก็จะต้องระมัดระวังมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเลย 3% ไปมากเท่าไหร่ กรรมการก็จะเริ่มชะลอการขึ้นลงตามลำดับ

shutterstock 1324096883

ประเด็นที่สาม – ประมาณการณ์เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร

โดยเฉพาะเงินเฟ้อ GDP และการว่างงาน
เพราะจะเป็นการที่ญาติผู้ป่วยอย่างเรา รับฟังการประเมินคนไข้จากคุณหมอเฟด
ว่าจากข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับมา

(1) เฟดคิดว่า เงินเฟ้อ จะดื้อแพ่งแค่ไหน
เพราะถ้าไม่ยอมลงมา เฟดคงต้องคงดอกเบี้ยไว้นานพอสมควร
แล้วปัจจัยต่างๆ พอจะดีขึ้นบ้าง เช่น ราคาน้ำมันโลก ราคาโลหะต่างๆ เฟดคิดว่าพอจะช่วยให้เงินเฟ้อลงเร็ว กว่าที่เคยคาดหรือไม่
นอกจากนี้ เฟดบอกว่า รอดูข้อมูลเงินเฟ้อ ตกลงว่าเงินเฟ้อสหรัฐ 2 เดือนล่าสุด ที่ลดจาก 9.1% มา 8.5% 8.3% เฟดพอใจแล้วหรือไม่
ยังต้องดูอีกนานแค่ไหน เฟดมองหาอะไร แล้วเงินเฟ้อเริ่มปรับตัว “ถูกทาง” แล้ว หรือยัง “ผิดทาง” อยู่

1000

(2) GDP จะแผ่วลงแค่ไหน และคนจะต้องตกงานเพิ่มมากน้อยแค่ไหน
เพราะท่านประธานเฟดบอกแล้วว่า ต้องทำใจ เศรษฐกิจจะแผ่ว คนจะตกงาน บริษัทจะล้ม แต่ก็สุดคุ้ม ถ้าสามารถเอาเงินเฟ้อกลับลงมาได้
เรื่องนี้ คงไม่ต้องลุ้นว่า เฟดจะใจอ่อน แต่ที่ทุกคนอยากรู้ ก็คือ เฟดมองว่าเศรษฐกิจจะแย่แค่ไหน แย่นานแค่ไหน
เพราะล่าสุด GDPNow ได้ปรับลดอัตราการเจริญเติบโต Q3 ของสหรัฐเหลือเพียง 0.3% !!!
แล้วที่ท่านประธานเฟดบอกว่า Soft landing ยังจะพยายามอยู่หรือไม่ หรือจะ Hard Landing เพื่อจัดการเงินเฟ้อให้สำเร็จ
แล้วที่ตกงาน อัตราการว่างงานจะขึ้นไปเท่าไหร่ นานเท่าไหร่ ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้ ก็จะทำให้เห็นถึงจุดก่อนที่ดอกเบี้ยเฟด จะลดลงมาได้เลาๆ

ประเด็นที่สี่ – ภาษาที่เฟดเลือกใช้นั้น เป็นอย่างไร
โดยเฉพาะในแถลงข่าว ในคำกล่าวก่อนถามตอบ และในระหว่างการถามตอบ ซึ่งสำคัญที่สุด เพราะท่านประธานเฟดชอบหลุดปาก พูดในสิ่งที่อยู่ในใจท่าน อยู่เสมอมา เมื่อถูกกดดันจากนักข่าว ที่แท๊กทีมกัน โดยจากภาษาที่ออกมา ตลาดจะพยายามประเมินว่า ท่านประธานเฟดเอนเอียงไปด้านไหน ยังจะตัดรอนไม่เหลือเยื่อใยอีกหรือไม่
จะพยายามฟังว่า ท่านจะยกอะไรมาเป็นบทเรียน เป็นต้นแบบ ในการสู้ศึกเงินเฟ้อครั้งนี้

272220617 367298535211666 7913431370904405552 n

ซึ่งหากท่านประธานเฟด ใช้โอกาสนี้ มาย้ำสิ่งที่ท่านเคยพูดไปเมื่อปลาย สิงหาคมที่ Jackson Hole ว่าท่านมีความตั้งใจอย่างนั้นจริง ไม่เปลี่ยนใจ ยกชื่อท่าน Paul Volcker มาอ้างถึงอีก
ว่าเป็นต้นแบบของท่านในการสู้ศึกเงินเฟ้อ ทุกคนก็ต้องทำใจ เพราะเฟดคงจะไม่เมตตา ทุกคนต้องรับกับผลกระทบที่จะเกิดเอง ทั้งนักลงทุน ทั้งนักธุรกิจ ทั้งแรงงาน แม้กระทั่งรัฐบาลใน Emerging Markets ก็ต้องทำใจว่า เฟดจะเอาอย่างนี้ เตรียมรับมือกับผลพวงที่จะตามมากันเอง แล้วมาวัดกันว่า ใครจะรอด ใครจะร่วง จากผลของสงครามกับเงินเฟ้อ

ทั้งหมดนี้ คือ หลากหลายคำถาม ที่จะได้รับคำตอบคืนนี้ มาลุ้นระทึกกันครับว่า จะออกหัวออกก้อยอย่างไร ตลาดจะกระทบแค่ไหน ซึ่งทั้งหมด จะเป็นกรอบที่มากำหนดทิศทางเฟสสอง
ในสงครามของเฟดกับเงินเฟ้อ ว่าจะหมุนไปอย่างไร

ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนครับ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight