Finance

‘KTBST’ เปิด 8 หุ้นเด่นน่าลงทุน!!

“บล.เคทีบี” คาดดัชนีสัปดาห์นี้แกว่งในกรอบ 1,584 – 1,620 จุด จับตาการโหวตข้อตกลง BRExit – เลือกตั้งของไทย แนะลุยกรอบสั้นรอตลาดเป็นขาขึ้น

ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ (14 – 18 ม.ค.) มีแนวโน้มในเชิงบวกหลังปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญๆ มีทิศทางที่ดี ทั้งเรื่องการเจรจาการค้าสหรัฐกับจีนที่มีความคืบหน้า รอดูเพียงว่าตัวเลขการสั่งซื้อสินค้าของจีนจากสหรัฐจะเพิ่มขึ้นตามที่ตกลงกันหรือไม่ โดยผู้นำสหรัฐจะเจรจากับประเทศจีนด้วยตนเองในงาน World Economic Forum ปลายเดือนนี้ (30 – 31 ม.ค.) และทางจีนก็กำหนดให้ นาย Liu He เป็นตัวแทนไปเจรจากับสหรัฐด้วยเช่นกัน

set30

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบมีปัจจัยบวกจากการที่ประเทศซาอุดิอาระเบียจะปรับลดการผลิตน้ำมันในเดือนมกราคมลง 8 แสนบาร์เรลต่อวัน และจะปรับลดเดือนกุมภาพันธ์ลงอีก 1 แสนบาร์เรลต่อวันหนุนราคาน้ำมันให้ขยับขึ้น และผลจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐไม่เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง ถือเป็นผลบวกต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ทั้ง น้ำมัน ,ทองคำ,โลหะพื้นฐานต่างๆ และยังส่งผลบวกมาถึงตลาดหุ้นส่วนใหญ่ที่มีน้ำหนักการลงทุนหลักอยู่ของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์

อย่างไรก็ตาม ตลาดมีปัจจัยกังวลคือ ประเด็นเรื่องอังกฤษจะมีการโหวตข้อตกลง BRExit ในวันที่ 15 มกราคมซึ่งจะเป็นการลงคะแนนใหม่หลังเลื่อนมาจากปลายปีก่อนโดยหากสภาฯไม่เห็นชอบ หรือผ่านร่างสัญญานี้ทันวันที่ 29 มีนาคม 2019 จะเป็นผลให้อังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) โดยไม่มีข้อตกลงใดๆ และจะเป็นผลในทางลบกับอังกฤษเอง รวมไปถึงความกังวลในเรื่องค่าเงินกับเศรษฐกิจของอังกฤษและสหภาพยุโรป

set25 1

ส่วนปัจจัยในประเทศ ตอนนี้มีเพียงปัจจัยสำคัญที่ตลาดกำลังติดตามรอ นั่นคือกำหนดวันเลือกตั้ง หลังจากที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ประเมินว่า พ.ร.ฎ.เลือกตั้งน่าจะประกาศภายใน 26 ม.ค. นี้และกำหนดการเลือกตั้งน่าจะประกาศหลังจากนั้นไม่เกิน 5 วัน โดยมีแนวโน้มสูงที่การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายในเดือน มี.ค. หากเป็นเช่นนั้นจริงจะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นที่กำลังรอเรื่องนี้อยู่ อย่างไรก็ตามประเด็นที่นักลงทุนให้ความสนใจมาก คือ พรรคใดจะมีโอกาสเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางตลาดหุ้นโดยตรง

ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนสัปดาห์นี้ KTBST มองว่า ด้วยปัจจัยต่างประเทศที่มีน้ำหนักในทางบวก แต่ปัจจัยเรื่องการเมืองในประเทศที่ยังดูคลุมเครือ หากดัชนีฯกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,600 จุด ได้จะส่งผลบวกด้านจิตวิทยา โดยสัปดาห์นี้ ยังให้น้ำหนักกับหุ้น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มน้ำมันและปิโตรเคมี และหุ้นที่ถูกคาดว่ากำไรไตรมาส 4 จะออกมาดี แนะนำให้ลงทุนในกรอบสั้นๆ ไปก่อนจนกว่าทิศทางตลาดจะมีความชัดเจนในทางบวกมากขึ้น ประเมินดัชนีฯ ในสัปดาห์นี้แกว่งในกรอบ 1,584-1,620 จุด ส่วนหุ้นที่น่าสนใจสัปดาห์นี้ประกอบด้วย CPALL, CPN, TOP, PTTEP, ANAN, COM7, BDMS, SVI

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK