Finance

คาดเงินบาทสัปดาห์นี้แกว่ง 31.80-32.10 บาท/ดอลลาร์

“ธนาคารกรุงศรีอยุธยา” ประเมินค่าเงินบาทสัปดาห์นี้แกว่ง 31.80 – 32.10 บาท/ดอลลาร์ หลังแข็งค่าสุดรอบ 7 เดือน

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มซื้อขายในกรอบ 31.80-32.10 ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 32.07 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 7 เดือน

เงินดอลลาร์

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ 4.2 พันล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตร 4.1 พันล้านบาท ส่วนเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเทียบทุกสกุลเงินสำคัญ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ลดลงในช่วงแรกท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้น โดยอัตราผลตอบแทนอายุ 2 ปีลดลงต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี ขณะที่ตลาดกังวลกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลก

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า มีโอกาสสูงขึ้นที่กระแสเงินทุนจะไหลกลับเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ในปีนี้ โดยนักลงทุนกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานแข็งแกร่งเกินคาด และยิ่งไปกว่านั้น ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้คำมั่นว่าจะยืดหยุ่นมากขึ้นในการกำหนดทิศทางดอกเบี้ยและจะให้ความสำคัญต่อปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน เราประเมินว่า ท่าทีล่าสุดของประธานเฟดเป็นการส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ ตลาดจะให้ความสนใจการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในวันที่ 7-8 มกราคมรายงานการประชุมเฟด และตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้

money11

สำหรับปัจจัยในประเทศ รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ระบุว่าการส่งออกมีแนวโน้มชะลอลงตามการค้าโลกและมาตรการกีดกันทางการค้า ขณะที่การย้ายฐานการผลิตมายังไทยจะช่วยบรรเทาผลกระทบได้บ้าง โดยกนง.เห็นว่าแม้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลงแต่ยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับศักยภาพ ส่วนการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนเริ่มขยายตัว กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าการขึ้นดอกเบี้ยเล็กน้อยไม่เป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจในระยะต่อไป แต่จะช่วยลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงิน และจะช่วยปรับสมดุลต่อพฤติกรรมการบริโภค การออม การกู้ยืม และการลงทุน

โดยเราตั้งข้อสังเกตว่าการที่กนง.เห็นว่าดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% ยังคงอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายนั้นยืนยันแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยการตัดสินใจในการประชุมแต่ละครั้งจะขึ้นอยู่กับพัฒนาการของข้อมูลและสถานการณ์เป็นสำคัญ

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK