ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาท สำหรับสัปดาห์ถัดไป (14-18 มี.ค.) ที่ 33.00-33.50 บาทต่อดอลลาร์ หลังจากปิดตลาดวานนี้ (11 มี.ค.) ที่ 33.27 บาทต่อดอลลาร์
สัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาท และสกุลเงินอื่น ๆ ในเอเชียอ่อนค่าลงเกือบตลอดสัปดาห์ ตามทิศทางสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ซึ่งเผชิญแรงเทขายอย่างหนัก หลังการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงระหว่างยูเครนและรัสเซียรอบที่ 4 สิ้นสุดลง โดยปราศจากข้อสรุป
ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อสหรัฐ ออกมาสูงกว่าที่คาด และยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นได้อีก ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ จะยังต้องเดินหน้าคุมเข้มนโยบายการเงินอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก ยังเพิ่มแรงกดดันต่อฐานะดุลบัญชีเดินสะพัด และเศรษฐกิจไทยในภาพรวม ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยลบต่อค่าเงินบาทด้วยเช่นกัน
ในสัปดาห์หน้า ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) และ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และสถานการณ์โควิด-19
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก การเริ่มสร้างบ้าน การผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดขายบ้านมือสอง ของเดือนกุมภาพันธ์ นอกเหนือจาก ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ประจำเดือนมีนาคม
นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซน และข้อมูลเศรษฐกิจจีนเดือนกุมภาพันธ์ อาทิ การผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดค้าปลีกด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คาดเงินบาทสัปดาห์หน้าแกว่ง 32.40-33.10 บาท/ดอลลาร์ จับตาโควิด-เงินทุนต่างชาติ
- KBANK ประเมินเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหว 32.70-33.40 บาท/ดอลลาร์
- ประเมินเงินบาทสัปดาห์หน้าแกว่ง 33.20-34.00 บาท/ดอลลาร์ สั่งจับตาเงินทุนต่างชาติ