“คอยน์แชร์” ชี้ มีเม็ดเงินไหลออกจากตลาดผลิตภัณฑ์การลงทุน และกองทุนสกุลเงิน “คริปโทเคอร์เรนซี” จำนวนมากเป็นประวัติการณ์ถึง 207 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการไหลออกติดต่อกันยาวนานถึง 4 สัปดาห์นับตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2564 คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 465 ล้านดอลลาร์
รายงานของคอยน์แชร์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล ระบุว่า เม็ดเงินที่ไหลออกจากสกุลเงินบิตคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโทเคอร์เรนซี ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในโลก มีจำนวนมากถึง 107 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา
เจมส์ บัทเทอร์ฟิลล์ นักยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนของคอยน์แชร์ กล่าวว่า การที่มีเม็ดเงินไหลออกจำนวนมาจากตลาดเงินดิจิทัลนั้น บ่งชี้ว่า นักลงทุนมีปฏิกิริยาต่อรายงานการประชุมเดือนธันวาคม ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เฟดมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และจากการที่นักลงทุนมีความกังวลว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ การใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินของเฟด ถือเป็นปัจจัยลบต่อบรรดาสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงเงินดิจิทัล เนื่องจากการใช้นโยบายดังกล่าว จะส่งผลให้สภาพคล่องอยู่ในภาวะที่ตึงตัวมากขึ้น และทำให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้นด้วย
นับตั้งแต่ต้นปี 2565 มูลค่าบิตคอยน์ร่วงลงเกือบ 10% และในวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 ม.ค.) ราคาบิตคอยน์ดิ่งหลุดจากระดับ 40,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2564
สำหรับรายงานการประชุมเฟดเดือนธันวาคม ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดทั่วโลกนั้น ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นว่า เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มเศรษฐกิจ ภาวะตลาดแรงงาน และเงินเฟ้อ ก็ถือเป็นเรื่องเหมาะสม ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วขึ้น หรือรวดเร็วกว่าที่กรรมการเฟดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ขณะที่กรรมการเฟดบางส่วนมองว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะเริ่มปรับลดขนาดงบดุลบัญชีของเฟดในทันทีหลังจากที่มีการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คนไทยสนใจคริปโทเคอร์เรนซีมากขึ้น แต่ลงทุนจริงยังน้อยเหตุเสี่ยงสูง
- 6 ข้อต้องระมัดระวัง ก่อนตัดสินลงทุนคริปโทเคอร์เรนซี
- ‘บิตคอยน์’ ราคาร่วงแล้วกว่า 20% นักวิเคราะห์หวั่นภาวะฟองสบู่