ดาวโจนส์ น้ำมัน และทองคำ ในตลาดสหรัฐ ปิดตลาดร่วงหนัก เหตุนักลงทุนกังวลเศรษฐกิจโลกซบเซา หลังยุโรปเจอเชื้อไวรัสโควิดระลอกใหม่ ในยุโรป ที่ทำให้หลายประเทศในภูมิภาคนี้ ต้องหันกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดซื้อขายวานนี้ (19 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ที่ 35,601.98 จุด ลดลง 268.97 จุด หรือ 0.75% ดัชนีเอสแอนด์พี ปิดที่ 4,697.96 จุด ลดลง 6.58 จุด หรือ 0.14% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 16,057.44 จุด เพิ่มขึ้น 63.73 จุด หรือ 0.40% ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่แนสแด็ก สามารถปิดเหนือระดับ 16,000 จุดได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้น
หุ้นกลุ่มธนาคาร, พลังงาน และสายการบิน ร่วงลง จากความวิตกที่ว่า หลายประเทศในยุโรปซึ่งเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น อาจดำเนินการตามประเทศออสเตรียในการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ
ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) กำหนดส่งมอบเดือนธันวาคม ร่วงลง 2.91 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 76.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และในรอบสัปดาห์นี้ ร่วงลง 5.8%
นอกจากจะกังวลถึงเรื่องโควิดยุโรป ที่อาจกระทบความต้องการใช้น้ำมันแล้ว นักลงทุนในตลาดน้ำมัน ยังคาดว่า สหรัฐและจีนอาจจะระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์เพื่อทำให้ราคาน้ำมันลดลง ทั้งยังมีความวิตกเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาดด้วย หลังทั้งกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ต่างก็คาดการณ์ว่า ตลาดน้ำมันจะเผชิญกับภาวะอุปทานล้นตลาดในปีหน้า
ส่วนราคาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 9.8 ดอลลาร์ หรือ 0.53% ปิดที่ 1,851.6 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และปรับตัวลงราว 0.9% ในรอบสัปดาห์นี้
ราคาทองถูกกดดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยดอลลาร์ได้แรงหนุนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังจากออสเตรียซึ่งเป็นสมาชิกยูโรโซน ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ทั่วไประเทศเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นของโรคโควิด-19
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.52% สู่ระดับ 96.0384I
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คาดเงินทะลักเอเชียในไตรมาส 2-3 จากมาตรการกระตุ้นสหรัฐ-ยุโรปออกฤทธิ์
- คลังแจงยิบ 6 โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมัน พร้อมเทียบราคาชัด ๆ อีก 9 ประเทศ!
- ความต้องการ ‘ทองคำโลก’ ร่วง ในไตรมาส 3 เหตุนักลงทุนรายใหญ่เทขาย