ราคาทองคำในประเทศ ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 50 บาท ตามตลาดสปอตขยับขึ้น จากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า แต่ราคาขึ้นจำกัด เจอขายทำกำไร การประชุมเฟดยังกดดัน
สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองในประเทศวันนี้ 4 ครั้ง โดยราคาทั้งวันขยับขึ้น 50 บาท/บาททองคำ จากราคาตลาดต่างประเทศขยับขึ้นตามทิศทางค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ทำให้ทองคำแพงขึ้นเมื่อซื้อด้วยเงินดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยจากช่วงเช้า
- ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 28,000.00 บาท/บาททองคำ และขายออก 28,100.00 บาท/บาททองคำ
- ทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 27,500.24 บาท/บาททองคำ และขายออก 28,600.00 บาท/บาททองคำ
ทองในประเทศอิงตลาดสปอตที่ 1,777.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และค่าเงินบาท 33.40 บาท/ดอลลาร์
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)ระบุว่าทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.67ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน ทองคำทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,785.07 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์ที่อ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาแย่เกินคาด อาทิ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงเกินคาดและการอนุญาตก่อสร้างที่ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงอย่างมากในไตรมาสที่ 3
นอกจากนี้ดัชนีดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากการแข็งค่าของเงินปอนด์จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางอังกฤษ(BoE)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วในปีนี้และปีหน้าเพื่อรับมือกับการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ดี ทองคำเผชิญกับแรงขายทำกำไร และแรงขายทางเทคนิคในเวลาต่อมา หลังจากเกิดสัญญาณที่บ่งชี้ว่าโมเมนตัมเชิงบวกชะลอตัวลง
นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากความเห็นของนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในผู้ว่าการเฟด ที่กล่าวเมื่อคืนนี้ว่า เฟดอาจต้องใช้ “การตอบสนองเชิงนโยบายที่แข็งกร้าวมากขึ้นในปีหน้า” หากอัตราเงินเฟ้อในระดับสูงยังคงดำเนินต่อไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าแทนที่จะปรับตัวลดลงอย่างที่คาดไว้
ความเห็นดังกล่าวหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีให้ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนครึ่งบริเวณ 1.646% จนกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย
ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด
ปัจจัยทางเทคนิค : ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นค่อนข้างจำกัด แต่ระยะสั้นหากราคาพยายามจะดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านระดับ 1,789-1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือต้านได้อย่างมั่นคง จะเกิดแรงขายกดดันให้ราคาลงมาสู่แนวรับโซน 1,766-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง
หากสามารถยืนเหนือ 1,766-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เปิดสถานะซื้อ โดยตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการขายทำกำไรอาจพิจารณาบริเวณ 1,789-1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านขึ้นไปให้ชะลอการขายไปที่ 1,808 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
- ทองคำเช้านี้ ‘ไม่ขยับ’ นักลงทุนรอผลการประชุมเฟดต้นเดือนหน้า
- ‘ดาวโจนส์’ ทะยานกว่า 100 จุด ขานรับธุรกิจรายงานผลกำไรแกร่ง หนุนความหวังเศรษฐกิจฟื้นตัว
- ศบค.ห่วงหยุดยาวทำโควิดพุ่ง แนะป้องกันสูงสุดแบบครอบจักรวาล