Finance

ลูกค้าธ.ก.ส. รีบด่วน! แจ้งพักชำระหนี้ต้นเงิน-ดอกเบี้ย ยื่นขอถึงสิ้นปีนี้

ธกส แจงมาตรการพักชำระหนี้ต้นเงิน-พักชําระดอกเบี้ยเงินกู้ตามความสมัครใจ ให้กับเกษตรกร บุคคล ผู้ประกอบการและสถาบันเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัส COVID – 19 ยื่นขอได้ถึง 15 ธันวาคมนี้

นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิต รวมถึงเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเป็นอย่างมาก และยังมีแนวโน้มแพร่ระบาดต่อเนื่องอีกระยะหนึ่ง

ธกส

รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังและและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มอบนโยบายให้สถาบันการเงินเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 มีมติเห็นชอบมาตรการผ่อนปรนการชำระคืนต้นเงินและดอกเบี้ยเงินกู้ หรือการเลื่อนงวดชำระต้นเงินและดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่ลูกค้า

ธกส ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ได้ดำเนินโครงการพักชำระหนี้ภายใต้มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามความสมัครใจ (พักหนี้โควิดภาคสมัครใจ) ให้กับลูกค้าที่มีต้นเงินคงเป็นหนี้หรือดอกเบี้ยคงเป็นหนี้ก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 และไม่มีสถานะเป็นหนี้ค้าง (NPLs) เพื่อเป็นการผ่อนคลายความกังวลใจและลดภาระการชำระหนี้ให้แก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมเป็นการชั่วคราว ให้สามารถนำเงินที่จะต้องชำระหนี้ไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน หรือใช้เสริมสภาพคล่องในการประกอบธุรกิจในช่วงที่มีความไม่แน่นอนสูง โดยมีจำนวนผู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ 3,585,296 ราย ต้นเงินกว่า 1,051,546 ล้านบาท

ธกส.พักหนี้

สำหรับลูกค้าที่ได้รับประโยชน์ตามมาตรการดังกล่าวแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย

  1. กลุ่มลูกค้าเกษตรกรและบุคคล
  2. กลุ่มลูกค้า ผู้ประกอบการ (นิติบุคคล) และสถาบัน ได้แก่ กลุ่มบุคคล กองทุนหมู่บ้านหรือชุมชนเมือง ผู้ประกอบการ (นิติบุคคล) องค์กร กลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์ (ไม่รวมสหกรณ์ออมทรัพย์ ส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจ)
  3. กลุ่มลูกค้าที่มีหนี้เงินกู้ตามโครงการสนับสนุนสินเชื่อฉุกเฉินสำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 และสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน ระยะที่ 1-2  โดยมีเงื่อนไขกรณีงวดชำระรายปี พักชําระเงินต้นที่ถึงกําหนดชําระตั้งแต่งวดเดือนกรกฎาคม 2564 ถึงงวดเดือนมีนาคม 2565 เป็นระยะเวลา 1 ปี นับจากงวดชําระเดิม และกรณีงวดชําระรายเดือน/รายไตรมาส/ราย 6 เดือน พักชำระต้นเงินที่ถึงกำหนดชำระตั้งแต่งวดเดือนกรกฎาคม 2564 ถึงงวดเดือนธันวาคม 2564 โดยนำต้นเงินงวดตามที่ลูกค้าสมัครเข้าร่วมโครงการและต้นเงินงวดเดือนถัดไป (รวม 2 งวด) ไปรวมไว้กับงวดสุดท้ายของสัญญา ทั้งนี้ ทุกกรณีงวดชำระจะได้รับการพักชำระดอกเบี้ยเงินกู้ที่ถึงกำหนดชำระตั้งแต่งวดเดือนกรกฎาคม 2564 ถึงงวดเดือนธันวาคม 2564 เป็นระยะเวลา 2 เดือน นับจากงวดชำระเดิม
  4. กลุ่มลูกค้าที่ใช้สินเชื่อระบบอิสลาม ทั้งที่เป็น เกษตรกร บุคคล ผู้ประกอบการและสถาบัน (กลุ่มบุคคล กองทุนหมู่บ้านหรือชุมชนเมือง ผู้ประกอบการ (นิติบุคคล) องค์กร กลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์ (ไม่รวมสหกรณ์ออมทรัพย์ ส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจ) โดยในกรณีที่มีงวดชำระรายปี จะพักชำระทุนเงินที่ถึงกำหนดชำระตั้งแต่งวดเดือนกรกฎาคม 2564 ถึงงวดเดือนมีนาคม 2565 เป็นระยะเวลา 1 ปี นับจากงวดชำระเดิม และพักชำระค่าธรรมเนียม/กำไรที่ถึงกำหนดชำระตั้งแต่งวดเดือนกรกฎาคม 2564 ถึงงวดเดือนธันวาคม 2564 เป็นระยะเวลา 2 เดือน นับจากงวดชำระเดิม และกรณีงวดชําระรายเดือน/รายไตรมาส/ราย 6 เดือน พักชำระทุนเงินและค่าธรรมเนียม/กำไรสำหรับสัญญาที่มีงวดชำระตั้งแต่งวดเดือนกรกฎาคม 2564 ถึงงวดเดือนธันวาคม 2564 (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด)

ทั้งนี้ โครงการพักชำระหนี้ดังกล่าวข้างต้นต้องไม่เป็นสัญญาเงินกู้ที่อยู่ในโครงการที่ได้รับการช่วยเหลือหรือมีเงื่อนไขพิเศษตามมาตรการอื่น และโครงการนโยบายรัฐ รวมถึงโครงการสินเชื่อบุคลากรภาครัฐหรือโครงการอื่นที่ให้การสนับสนุนสินเชื่อแก่ข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ

นายธนารัตน์ กล่าวอีกว่า มาตรการดังกล่าวในขณะนี้มีลูกค้า ธ.ก.ส.ที่แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการแล้ว 194,728 ราย แบ่งเป็นลูกค้ารายบุคคลจำนวน 187,792 ราย และลูกค้าประเภทสถาบันและ  นิติบุคคลจำนวน 6,936 แห่ง

อ่านข่าวเพิ่มเติม:

Avatar photo