ราคาบิตคอยน์ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 40,000 ดอลลาร์ในช่วงบ่ายวันนี้ หลัง “เคธี วูด” ซีอีโอบริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์ชื่อดังของสหรัฐ แสดงความเชื่อมั่นในสกุลเงินบิตคอยน์ และคาดว่า ราคาเงินดิจิทัลสกุลนี้ จะทะยานขึ้นไปแตะระดับ 500,000 ดอลลาร์
เมื่อเวลา 14.57 น.ตามเวลาไทย ราคาบิตคอยน์ดีดตัวขึ้น 1,713 ดอลลาร์ หรือ 4.46% แตะที่ 40,103 ดอลลาร์ ก่อนที่จะอ่อนตัวลงเล็กน้อย ล่าสุดเคลื่อนไหวที่ระดับ 40,000.77 ดอลลาร์
ราคาบิตคอยน์ฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ทรุดฮวบลงเกือบ 30% สู่ระดับ 30,600 ดอลลาร์ เมื่อวานนี้ (19 พ.ค.) โดยราคาบิตคอยน์ดีดตัวขึ้น หลังจากนางเคธี วูด ซีอีโอ อาร์ค อินเวสต์เมนท์ แมเนจเมนท์ (Ark Investment Management) บริษัทด้านการบริหารจัดการการลงทุนในนครนิวยอร์ก ซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้การดูแล 50,000 ล้านดอลลาร์ แสดงความเชื่อมั่นในสกุลเงินบิตคอยน์ แม้มูลค่าตลาดของบิตคอยน์ทรุดฮวบลง 500,000 ล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ก็ตาม
นางวูด แสดงความเชื่อมั่นด้วยว่า ราคาบิตคอยน์จะทะยานขึ้นไปจนถึงระดับ 500,000 ดอลลาร์
ซีอีโอ อาร์ค อินเวสต์เมนท์ แมเนจเมนท์ ระบุว่า หุ้นที่มีความผันผวนสูง ถูกเทขายออกมาอย่างหนัก เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งบิตคอยน์ก็ร่วงลงเช่นกัน โดยล่าสุดดิ่งลงไปอยู่ต่ำกว่า 38,000 ดอลลาร์ แต่เรามีสายตาที่กว้างไกลกว่านั้น และมุมมองของเราอยู่เหนือสถานการณ์ดังกล่าว ใช่..เรามั่นใจว่าราคาบิตคอยน์จะทะยานขึ้นในวันข้างหน้า
นางวูดยังได้แสดงความเห็นต่อกรณีที่นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลาประกาศว่า จะไม่รับบิตคอยน์ในการซื้อรถยนต์ของเทสลา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
“เมื่อพลังงานทดแทนเข้ามามีบทบาทเป็นหนึ่งเดียวกับเทคโนโลยีการขุดเหรียญบิตคอยน์ เมื่อนั้น อีลอน มัสก์ จะกลับเข้ามา และจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน์นั้น”
“ดิฉันคิดว่าเรากำลังอยู่ในปรากฎการณ์ที่เรียกว่า Capitulation หรือการที่สินทรัพย์เกือบทุกประเภท ถูกเทขายออกมา แต่นี่เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะเข้าช้อนซื้อ ไม่ว่าสินทรัพย์เหล่านั้นจะเป็นอะไรก็ตาม”
นอกจากนี้ นางวูดยังคาดการณ์ว่า กองทุน ETF บิตคอยน์จะได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐในปีนี้ เมื่อพิจารณาจากการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่หลายคน
การแสดงความเชื่อมั่นของซีอีโอ อาร์ค อินเวสต์เมนท์ แมเนจเมนท์นับว่าสวนทางกับรัฐบาลจีน ที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของราคาเงินดิจิทัล
เมื่อวานนี้ รัฐบาลจีนสั่งห้ามไม่ให้สถาบันการเงินให้บริการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมเงินดิจิทัล รวมถึง การซื้อขาย, การชำระบัญชี และการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับเงินดิจิทัล เพราะกังวลว่า ความผันผวนของเงินเสมือนจริงนี้ จะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของทรัพย์สินประชาชน และจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของจีน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- รมว.คลังสหรัฐเตือน ‘บิตคอยน์’ เก็งกำไรสูง – ไม่มีประสิทธิภาพทำธุรกรรม
- ‘บิทคอยน์’ ร่วงแรง 30% เกือบหลุด 3 หมื่นดอลล์
- เสี่ยงมาก! จีนห้ามสถาบันการเงิน เสนอบริการ ‘เงินดิจิทัล’ ชี้ ไม่ปลอดภัย
