Finance

ลุ้น ‘GULF’ เข้าเอ็มเอสซีไอ-เซ็ท 50 รอบใหม่

ดัชนี MSCI หรือ MSCI Index เป็นดัชนีอ้างอิงที่บริษัท Morgan Stanley Capital International (MSCI) จัดทำขึ้น เพื่อให้ผู้ลงทุนสถาบันที่เข้ามาลงทุนในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ได้นำมาใช้เป็นมาตรฐานในการวัดผลตอบแทน ซึ่งจะมีประกาศรายชื่อหุ้นที่ถูกคัดเลือกเข้าคำนวณรอบใหม่ ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนของทุกปี

การคาดการณ์หุ้นเข้าดัชนี MSCI 01

 ขณะเดียวกันเดือนธันวาคม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก็จะประกาศชื่อหุ้นที่ถูกคัดเข้าคำนวณดัชนีเซ็ท 50 และเซ็ท 100 รอบใหม่เช่นกัน

จากสำรวจข้อมูลจากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์จะพบว่า ส่วนใหญ่ลงความเห็นที่ตรงกันว่า หุ้นบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF จะเป็นหุ้นที่มีโอกาสได้เข้าคำนวณทั้งดัชนี MSCI  และดัชนีเซ็ท 50 ในรอบครึ่งแรกของปี 2562  ขณะเดียวกันมีการประเมินผลตอบแทนจากการลงทุน โดยนำสถิติในอดีตจะเห็นว่า 1-2 เดือนก่อนประกาศ ราคาหุ้นที่ได้รับคัดเลือกเข้าคำนวณจะให้ผลตอบแทนได้สูงขึ้น

บล.โนมูระพัฒนสิน ประเมินว่า ฝ่ายวิจัยได้มีการคาดการณ์ MSCI Rebalance รอบเดือนพฤศจิกายน 2561 คาดประกาศวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ พบว่า หุ้นไทยที่คาดว่าจะมีโอกาสเข้าคำนวณรอบนี้คือ หุ้น  MTC และ หุ้น GULF ขณะที่ไม่มีหุ้นที่ถูกคัดออก โดยน่าจะเป็นตัวช่วยพยุงตลาด ผสาน ดัชนีหุ้นปรับฐาน ทำให้ พีอีเรโช จาก 18 เท่า ลงมาที่ 15.23 เท่า แล้ว ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 15.7 เท่า กรณีลงไปซื้อขายต่ำกว่าค่าพีอีเฉลี่ยที่ 14.7 เท่า

บล.บัวหลวง ระบุว่าในการคำนวณดัชนีฯ MSCI รอบใหม่ ประกาศกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ หุ้นไทยที่ตลาดคาดมีโอกาสติด ได้แก่ หุ้น GULF อย่างไรก็ตาม คาดว่าภาพรวมตลาดหุ้นไทยในรอบนี้ยังปรับตัวขึ้นได้ และในอีก 1 เดือนข้างหน้า ดัชนีน่าจะเคลื่อนไหวบริเวณ 1,700-1,720

ช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า น่าจะเป็นการหมุนเล่นหุ้นใหญ่ เพื่อพยุงดัชนีก่อนที่จะวนกลับไปเล่นหุ้นขนาดกลางและเล็กในช่วงปลายเดือน ดังนั้นเราแนะนำให้มองหาหุ้นมูลค่าที่ราคายังปรับตัวขึ้นไม่มาก โดยมีเกณฑ์ในการเลือก

1. มีสินทรัพย์ที่แข็งแรง

2. PE ให้ส่วนลดจากค่าเฉลี่ยในอดีต หรือให้ส่วนลดจากค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม

3. แนวโน้มธุรกิจดี โอกาสโดนปรับลดประมาณการจำกัด

4. มีโอกาสปลดล็อคมูลค่า หรือการสร้างรายได้จากสินทรัพย์

ปก1 01

ด้าน บล.ยูโอบีเคย์เฮียน(ประเทศไทย) ระบุว่า หุ้นที่มีโอกาสเข้าดัชนี MSCI คาด GULF, GPSC, KTC, MTC  มีโอกาสถูกนำเข้าคำนวณในดัชนีในครั้งนี้

บล.ทรีนีตี้  คาดว่ากลุ่มหุ้นที่อาจมีแรงเก็งกำไรต่อการถูกคัดเลือกเข้าสู่เซ็ท 50 ในรอบถัดไป เช่น หุ้น GULF และหุ้น WHA

บล.ทิสโก้ ระบุว่า จากการศึกษาความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในอดีต นับตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกปี 2552 เป็นต้นมา หุ้นที่เข้าดัชนี 50 มักมีราคาหุ้นปรับตัวในทิศทางที่ดีกว่าตลาดในระยะสั้น ในช่วง 1-2 เดือนล่วงหน้าก่อนมีผลบังคับใช้จริง ด้วย ผลตอบแทนคาดหวังโดยเฉลี่ยประมาณ 6.8%

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้นักลงทุนสามารถวางแผนการลงทุนคร่าว ๆ ได้ล่วงหน้า จึงทำการประเมินเบื้องต้น หุ้นที่คาดว่าจะเข้า เซ็ท 50 และ เซ็ท 100 สำหรับครึ่งแรกปีหน้า โดยใช้ข้อมูลจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมมีรายละเอียดดังนี้

ปก2 01

หุ้นที่คาดว่าจะเข้าเซ็ท 50 มี 5 ตัว คือ GULF, WHA, TPIPP, ESSO, SAWAD (เรียงลำดับตามมูลค่าตลาดรวมจากมากไปหาน้อย เพื่อสะท้อนความเป็นไปได้ในการเข้าดัชนี 50 มากถึงน้อย จะเข้ามาแทนหุ้น BEAUTY, CBG, BPP, DELTA, RATCH โดยหุ้น 2 ตัวแรกคาดว่าจะตกชั้นไปอยู่ใน เซ็ท 100 ขณะที่หุ้น 3 ตัวหลังคาดว่าจะไม่ผ่านเกณฑ์มูลค่าและปริมาณการซื้อขายโดยเปรียบเทียบ ทำให้หลุดออกจากเซ็ท 50 และ เซ็ท 100

หุ้นที่คาดว่าจะเข้าดัชนี เซ็ท 100 มี 10 ตัว คือ GULF, AEONTS, JAS, MBK, THG, S, PLANB, GOLD, GLAND, ANAN (เรียงลำดับตามมูลค่าตลาดรวมจากมากไปหาน้อย เพื่อสะท้อนความเป็นไปได้ในการเข้าดัชนีเซ็ท100 มากถึงน้อย) ซึ่งจะแทนหุ้น GGC, LPN, ITD, TPIPL, PSH, TTW, BLA, RATCH, BPP, DELTA (เรียงลำดับตามมูลค่าตลาดรวมจากน้อยไปหามาก เพื่อสะท้อนความเป็นไปได้ในการออกจาก ดัชนีเซ็ท 100 มากถึงน้อยที่ถูกปรับออกไป)

อนึ่ง ฝ่ายวิจัยมีความเชื่อมั่นต่อคาดการณ์รายชื่อ หุ้นเข้า-ออกเบื้องต้นราว 70% เนื่องจากใช้ข้อมูลจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมเท่านั้น ในความเป็นจริงต้องใช้ข้อมูลจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนจึงจะเป็นข้อมูลที่ครบ 100%  ฉะนั้น คาดการณ์รายชื่อหุ้นข้างต้น จึงอาจเปลี่ยนแปลงได้ โดยจะมีการออกบทวิเคราะห์คาดการณ์ครั้งสุดท้ายอีกครั้งในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศรายชื่อหุ้นในดัชนีเซ็ท 50 และเซ็ท100 ชุดใหม่อย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือน ธันวาคม เพื่อให้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2562

กัลฟ์ หุ้น

สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้นในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หุ้น GULF ปรับตัวลดลง 1.28% จากราคา 78 บาท ลดลงมาอยู่ที่ 77 บาท  ราคาเคยปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 78.50 บาท ต่ำสุดที่ 76.25 บาท และราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 77.63 บาท  ดังนั้นจึงน่าจะเป็นจังหวะที่ดีหากจะทยอยสะสม เพื่อถือลงทุนก่อนที่จะประกาศผลเมื่อเข้าคำนวณใน2ดัชนีอ้างอิง

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight