เริ่มแล้วสำหรับกลยุทธ์ Going Upside Down ของธนาคารไทยพาณิชย์กับการประกาศจับมือกับ “จูเลียส แบร์” กลุ่มธุรกิจไพรเวทแบงกิ้งระดับโลกจากสวิสเซอร์แลนด์เปิดบริษัทร่วมทุนด้านการบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) เป็นครั้งแรกของเอเชียภายใต้ทุนจดทะเบียน 1,800 ล้านบาท โดยมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (High Net Worth – HNWIs) ที่มีสินทรัพย์ตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป
เราอาจเคยได้ยินกันมาบ่อยครั้งถึงวิสัยทัศน์ของไทยพาณิชย์เกี่ยวกับการนำพาธุรกิจ และพนักงานไปสู่ธุรกิจการบริหารความมั่งคั่ง ซึ่งล่าสุด อาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการถึงการร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะยาวที่ตอบโจทย์วิสัยทัศน์ดังกล่าวแล้ว โดยระบุว่า การร่วมมือกับจูเลียส แบร์ถือเป็นการเสริมแกร่งแบรนด์ไทยพาณิชย์ในระดับโลก และเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูงในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากสินทรัพย์ที่มีอยู่ผ่านการลงทุนทั้งในและนอกประเทศได้เป็นอย่างดี
จูเลียส แบร์ เป็นกลุ่มธุรกิจบริการไพรเวทแบงกิ้ง และบริการด้านการบริหารความมั่งระดับโลก และเมื่อสิ้นปี 2017 บริษัทมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการรวมมูลค่า 388,000 ล้านฟรังก์สวิส ปัจจุบันดำเนินธุรกิจใน 25 ประเทศทั่วโลก และมีสาขารวมกว่า 50 แห่ง โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองซูริค
ส่วนสถานการณ์ของธุรกิจบริหารความมั่งคั่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นในประเทศจีน ฮ่องกง และสิงคโปร์ รวมถึงประเทศไทย อย่างไรก็ดี ธุรกิจนี้ในประเทศไทยยังถือได้ว่าอยู่ในระยะเริ่มต้นเมื่อเทียบกับตลาดอื่น ๆ ที่ค่อนข้างอิ่มตัว ขณะที่ความต้องการในบริการบริหารความมั่งคั่งในกลุ่มลูกค้าคนไทยผู้มีความมั่งคั่งในระดับสูงนั้นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยมีการคาดการณ์ว่าปัจจุบันกลุ่มลูกค้าคนไทยผู้มีความมั่งคั่งในระดับสูงมีถึงกว่า 30,000 ราย (ครอบครัว) โดยมีสินทรัพย์ในการลงทุนรวมแล้วถึงประมาณ 300,000 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ธนาคารที่ดูแลด้านไพรเวทแบงค์กิ้งปัจจุบันสามารถเข้าถึงมูลค่าการลงทุนอันมหาศาลนี้ได้ในสัดส่วนเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องด้วยข้อจำกัดในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุน การเข้าถึงแพลตฟอร์มการลงทุนในระดับโลก ความสามารถในการให้คำปรึกษา รวมทั้งองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่ยังจำกัดของธนาคารในประเทศ
หากอ้างอิงจากผลสำรวจและการประมาณการที่ระบุใน Asia-Pacific Wealth Report 2017 โดย Capgemini’s Financial Services พบว่า กลุ่มผู้มีความมั่งคั่งระดับสูง (HNWIs) ในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตราสูงมาก จาก 12.7% ในปี 2559 เพิ่มเป็น 13.3% ในปี 2560
สำหรับกลุ่มเป้าหมายอย่างลูกค้าผู้มีความมั่งคั่งระดับสูง (HNWIs) ในครั้งนี้ ยังรวมถึงนักลงทุนต่างชาติที่ทำงานและพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนพฤษภาคมนี้
โดยบริการที่ลูกค้าผู้มีความมั่งคั่งระดับสูง (HNWIs) จะได้รับจากบริษัทร่วมทุนในครั้งนี้ ประกอบด้วย
- ข้อมูลเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นงานวิจัย บริการด้านการลงทุนต่างๆ
- บริการให้คำปรึกษาด้านการวางแผนและการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ คาดว่าความร่วมมือดังกล่าวจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งของไทยที่มีมูลค่าประมาณ 9,500 ล้านบาท (อ้างอิงจากผลสำรวจและการประมาณการที่ระบุใน BCG Wealth Report 2017) ทำให้พร้อมรุกโอกาสการลงทุนแบบไร้พรมแดนได้มากขึ้น
