ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ 1,724.98 จุด ลดลง 40.26 จุด หรือ 2.28% มูลค่าการซื้อขาย 93,138.23 ล้านบาท.
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่
1.PTT ปิดที่ 532.00 บาท ลดลง -14.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 8,641.21 ลบ.
2.KBANK ปิดที่ 195.50 บาท ลดลง -16.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,939.22 ลบ.
3.TRUE ปิดที่ 7.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,914.43 ลบ.
4.EA ปิดที่ 32.75 บาท ลดลง -1.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,405.36 ลบ.
5.AOT ปิดที่ 68.50 บาท ลดลง -1.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,939.80 ลบ.
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยกับ infoquest ว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลง ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สร่วงไปกว่า 400 จุดบ่ายนี้ แม้แต่ตลาดยุโรปก็ปรับตัวลงราว 0.5-1% ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ปรับลงมาก นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเฉพาะกลุ่ม อย่างเช่น กลุ่มโรงกลั่น, โรงไฟฟ้าอีกด้วย
สำหรับแนวโน้มการลงทุนพรุ่งนี้ คาดว่า ตลาดฯอาจจะแกว่งซึมลง ทิศทางดัชนีคงจะเป็นลักษณะแกว่ง Sideway ถึง Sideway Down เพื่อรอดูพัฒนาการของข่าวต่าง ๆ และรอติดตามทิศทางตลาดสหรัฐในคืนนี้ด้วย โดยมองว่าเดือนนี้ตลาดฯ คงจะยังผันผวนต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีนจะถ่วงในแง่ Sentiment พร้อมให้แนวรับ 1,720 จุด ส่วนแนวต้าน 1,750-1,755 จุด
