Finance

‘กสิกรไทย’ เร่งเพิ่มครบ 1 แสนจุดยืนยันตัวตน ‘บัญชีเงินฝากดิจิทัล’

กสิกรไทยรุกหนัก เร่งขยายฐานลูกค้าเปิดบัญชีเงินฝากดิจิทัล 2.6 ล้านบัญชี เพิ่มจุดให้บริการยืนยันตัวตน ตั้งเป้าครอบคลุม 100,000 จุดทั่วประเทศ ดันฐานลูกค้าเค พลัส รวมกว่า 14.6 ล้านราย

นายวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นตามทิศทางของบริการดิจิทัล แบงกิ้ง และเป็นทางเลือกให้กับลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ที่คุ้นเคยกับการใช้ดิจิทัล เทคโนโลยี

Wirawat1

ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายของบริการเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์บน K PLUS (K-eSavings) คือ กลุ่มลูกค้าที่ยังไม่เคยมีบัญชีกับธนาคาร แต่อยากเปิดบัญชีและไม่อยากมีสมุดบัญชีให้ยุ่งยาก ซึ่งการเปิดบัญชี K-eSavings ไม่มีกำหนดเงินฝากขั้นต่ำ ทำให้ลูกค้าเข้าถึงบริการของธนาคารได้ง่ายมากยิ่งขึ้น สามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องมาธนาคารตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครเพื่อเปิดบัญชี ไปจนถึงการทำธุรกรรมทางการเงินได้ตามต้องการในทุกที่ ทุกเวลา

ปัจจุบันมีลูกค้าเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์แล้วกว่า 180,000 บัญชี ซึ่งเป็นการทดสอบใน sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนลูกค้ากลุ่มนี้เป็น 2.6 ล้านบัญชีภายในสิ้นปี 2563นี้ และจะทำให้ K PLUS มีฐานลูกค้ารวมกว่า 14.6 ล้านราย

K eSavings

นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทย จะเร่งขยายจุดให้บริการยืนยันตัวตน (K CHECK ID) ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่ทำให้การเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์สำเร็จ และลูกค้าสามารถทำธุรกรรมได้ทันที โดยเตรียมเปิดให้บริการร่วมกับพันธมิตรชั้นนำที่มีเครือข่ายสาขาทั่วประเทศในเร็วๆนี้ เช่น บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์, มินิบิ๊กซี และที่ทำการไปรษณีย์ไทย จากปัจจุบันที่ลูกค้าสามารถยืนยันตัวตนได้ทาง เคาน์เตอร์สาขาธนาคารกสิกรไทย, ตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย และ เคแบงก์ เซอร์วิส

ขณะเดียวกันจะเพิ่มจำนวนร้านค้าที่ติดตั้ง เครื่องอีดีซี (EDC) ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารมี จุดให้บริการยืนยันตัวตนมากที่สุดรวมกว่า 100,000 จุดทั่วประเทศ

สำหรับขั้นตอนการยืนยันตัวตนดังกล่าว เพียงแค่ลูกค้ายืนยันตัวตนโดยการเสียบบัตรประชาชน ผ่านอุปกรณ์ที่จุดให้บริการยืนยันตัวตน เพื่อตรวจสอบข้อมูลจากบัตรประชาชนแบบเรียลไทม์ เทียบกับการสแกนใบหน้าจากภาพถ่ายบนแอปพลิเคชัน K PLUS ด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition และ Liveness  Detection ซึ่ง เทคโนโลยีที่นำมาใช้นั้นเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านไซเบอร์ ป้องกันไม่ให้เกิดช่องโหว่ในการทุจริต และไม่มีการเก็บข้อมูลใดๆ เอาไว้ในเครื่อง

Avatar photo