Finance

คาด กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงปลายไตรมาส 1/62

saraly brand
ภาพจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอีก 2 ครั้ง ในเดือนกันยายน และธันวาคม รวมเป็น 4 ครั้ง ถือว่าเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะขึ้นเพียง 3 ครั้ง สะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง และอาจส่งผลให้เงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่รวมทั้งไทยในระยะสั้น จะเพิ่มแรงกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงไปอยู่ที่ 32.40 -32.50 บาทต่อดอลลาร์ แต่ในระยะยาวเงินบาทจะกลับมาแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 32 บาทในช่วงสิ้นปี เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวดี และดุลบัญชีเดินสะพัดที่ยังเกินดุลในระดับสูง

ส่วนทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของไทย คาดว่า กนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.50% ในปีนี้ เนื่องจากไทยยังมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับสูง จากการส่งออกที่ขยายตัว 7-8% และท่องเที่ยวที่ขยายตัวดี และจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะเติบโต 4.2%

นอกจากนี้มองว่าการเลือกตั้งภายในประเทศเกิดขึ้นตามโรดแมปที่วางไว้ จะช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ โดยเฉพาะภาคการเกษตร จะช่วยทำให้การบริโภคคึกคักขึ้น และอาจกดดันให้เงินเฟ้อขยับขึ้น ส่งผลให้กนง. น่าจะขึ้นดอกเบี้ยปลาย ไตรมาส 1 ปี 2562

ด้านดร.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการวิจัยและคำปรึกษาระหว่างประเทศ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย (TDRI) กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกในครึ่งปีหลังจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยมาจากเศรษฐกิจสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น และงยูโร ที่เติบโตได้ดี

ส่วนเศรษฐกิจไทยก็จะเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน แม้ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือในปีนี้อีก 2 ครั้ง โดยไทยยังพึ่งพาเศรษฐกิจโลก เพราะเติบโตมาจากส่งออก ซึ่งถ้าเศรษฐกิจโลกเติบโตดี จะส่งผลต่อการค้าการลงทุนเติบโตตามเห็นจากการกระจายรายได้ไปยังฐานล่างมากขึ้น และการจ้างงานเพิ่มขึ้น ตลอดจนค่าแรงที่เพิ่มขึ้น 3% ในไตรมาส 1/2561 เมื่อเทียบจากไตรมาส 1/2560 จากการลงทุนภาครัฐมากขึ้น และช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาพบว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตมากกว่า 70% จากอดีต 50% ส่งผลให้มีภาคการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตรองรับงานที่จะเข้ามาในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามในครึ่งปีหลัง เช่น ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง และราคายางที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งอาจเห็นเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังเชื่อว่าจะอยู่ในระดับ 1%

“เรายังเชื่อว่าจีดีพีไทยปีนี้จะขยายตัวได้ 4.5% จากต้นปีมองไว้ 4% เพราะไตรมาสแรกก็เติบโตได้ดีทั้งส่งออก และท่องเที่ยว” ดร.กิริฎา กล่าว

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK