นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ปรับเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปีนี้เป็น 1,898 จุด จากเดิมคาดการณ์ดัชนีที่ 1,888 จุด หลังปรับคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) เพิ่มเป็น 4.5% จากเดิม 4% หลังได้รับผลดีจากภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกที่เพิ่มขึ้นชัดเจน รวมถึงการบริโภคนอกภาคเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องประกอบกับการลงทุนภาครัฐและเอกชนมีแนวโน้มดีขึ้น จากตัวเลขการจัดซื้อจัดจ้างปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจ อาทิ บมจ.ปตท. (PTT)
สำหรับหุ้นกลุ่มที่มีผลประกอบการอ้างอิงตามเศรษฐกิจของประเทศจะได้รับประโยชน์ มีอยู่ 2 กลุ่มหลักคือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่มียอดปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ไม่มีความกังวลต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ โดยการปรับตัวเพิ่มในรอบใหม่ นับว่าต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 2.9-3% เท่านั้น ทั้งนี้ แนะนำหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ได้แก่ BBL, KTB, TISCO
ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่ปีนี้มีแผนการเปิดโครงการรวมทั้งหมด 266 โครงการ (อ้างอิงจาก 9 บริษัท) มูลค่ารวมกว่า 3.4 แสนล้านบาท โดยมีการเปิดโครงการในไตรมาสที่ 1/2561 ไปแล้ว 4 หมื่นล้านบาท และคาดว่าไตรมาสที่ 2/2561 จะเปิดรวมอีก 6 หมื่นล้านบาท ส่วนในช่วงครึ่งปีหลัง มองว่าจะเปิดโครงการใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ คือเปิดโครงการเฉลี่ยไตรมาสละ 1.2 แสนล้านบาท จากผู้ประกอบการที่มีความมั่นใจในอุปสงค์และเศรษฐกิจที่ยังเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ ทั้งนี้ แนะนำหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ได้แก่ AP, LH, SPALI, QH, ORI
ส่วนกลุ่มที่มองว่าน่าสนใจเพิ่มเติม ได้แก่ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และเริ่มมีการขายซองเอกสารเชิญชวนประมูล (TOR) ในช่วงที่ผ่านมา และได้รับประโยชน์จากความชัดเจนในการเลือกตั้ง ที่ทำให้คาดว่าจะมีการเร่งเปิดประมูลโครการต่าง ๆ ในช่วงที่เหลือของปี โดยแนะนำหุ้นกลุ่มรับเหมาได้แก่ STEC, CK ส่วนกลุ่มค้าปลีก ได้แก่ CPALL, CPN, BEAUTY และกลุ่มส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ KCE ซึ่งได้รับผลดีตามเศรษฐกิจโลกที่เติบโต
ทั้งนี้ บล.กสิกรไทย ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นเป็น 80% จากเดิม 60% ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา และอาจปรับเป็น 100% ในอนาคต