Finance

เงินทะลัก!! เข้าหุ้นเป้าหมาย MSCI แตะนิวไฮ

ภาพรวมดัชนีหุ้นไทยคึกคักหลังเทศกาลสงกรานต์ผ่านไป จะเห็นว่ามีการเงินลงทุนทยอยไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยโดยเน้นการลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเป้าหมายการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ

ทั้งนี้ ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนถึงปัจจุบัน ในส่วนการซื้อขายแยกรายกลุ่มผู้ลงทุน จะเห็นว่า ต่างชาติมียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 3.89 พันล้านบาท สถาบันในประเทศมียอดซื้อสุทธิ 8.23 พันล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์มียอดซื้อสุทธิ 3.89 พันล้านบาท ขณะที่นักลงทุนทั่วไปในประเทศมียอดขายสุทธิ 1.6 หมื่นล้านบาท

หากลงลึกไปพิจารณาตัวเลขย้อนหลังในตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน พบว่า ต่างชาติยังมียอดขายสุทธิที่ 9.18 พันล้านบาท สถาบันในประเทศมียอดซื้อสะสมอยู่ที่ 4.07 หมื่นล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 6.5 พันล้านบาท และนักลงทุนในประเทศมียอดขายสุทธิ 3.81 หมื่นล้านบาท

จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นว่า ต่างชาติมียอดขายสุทธิสะสมเหลือต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ดังนั้นน่าจะเป็นไปได้ว่า เริ่มมีการทยอยซื้อหุ้นกลับเข้าไปลงทุนไปบ้างแล้ว

มูลค่าการซื้อขายสะสมในช่วง 01

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่น่าจะเป็นตัวสะท้อนแรงซื้อที่ชัดเจนในช่วงนี้ น่าจะเกิดจากการเข้ามาซื้อลงทุนเพื่อดักเก็งกำไรในหุ้นที่อยู่ในเป้าหมายของดัชนี MSCI ซึ่งได้พิจารณาปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนจากการนำเอาสัดส่วนของ NVDR มาคำนวณในดัชนี โดยมีหุ้นจำนวน 20 บริษัทที่ถูกเพิ่มน้ำหนักการลงทุน และมีหุ้นคาดการณ์ว่าหุ้นที่จะถูกเพิ่มน้ำหนักการลงทุนมากสุด 4 หุ้นได้แก่ หุ้น MTC, BDMS, CPN, CPALL

จากการสำรวจราคาหุ้นที่ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นเป้าหมายของการเพิ่มน้ำหนักในครั้งนี้ พบว่า ราคาหุ้นทุกตัวเพิ่มขึ้น และราคาทุบสถิติสูงสุดใหม่ ทั้งในรอบเดือนเมษายนและ 5 เดือนที่ผ่านมาจึงสะท้อนได้ว่ามีเงินทะลักเข้าหุ้นขนาดใหญ่ทั้ง 4 ตัวตามที่โบรกเกอร์ประเมินไว้

การเคลื่อนไหวราคาหุ้น MTC ปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 51.50  บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอบ 5เดือน หุ้น BDMS ราคาสูงสุดที่ 25.75 บาท เป็นราคาสูงสุดในรอบ 4 เดือน หุ้น CPN ราคาสูงสุดที่ 76.50 บาท ราคาสูงสุดรอบ 1 เดือน และหุ้น CPALL ราคาสูงสุดในรอบ 1 เดือนเช่นกัน

บล.โนมูระพัฒนสิน ประเมินว่าการที่ MSCI เพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย 0.5% สู่ 2.8% ของ EM คาดวงเงิน 2.4 พันล้านดอลลาร์เข้าไทยในเดือนพฤษภาคม 2562  ซึ่งหุ้นที่จะเข้า MSCI รอบใหม่ คือ INTUCH, RATCH, CENTEL, DTAC และ เพิ่มน้ำหนัก SCC, BDMS, CPN, CPALL, BBL/F, EGCO, LH, KBANK, BANPU, PTT, TU, ADVANC, CPF, HMPRO, MINT, EA, BH, BTS, GULF, TRUE, IRPC และลดน้ำหนัก SCB

ส่วนหุ้นเข้าใหม่ MSCI Small Cap เข้าใหม่คือ BLA, AEONTS, LHFG, TASCO, EASTW, COL, TIP

สอดรับกับ บล.ทรีนีตี้ คาดว่า กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการพิจารณาเกณฑ์ NVDR ของ MSCI  และราคายังคงปรับตัวขึ้นไม่มาก (Laggard) ได้แก่ MTC, BDMS, CPN, CPALL

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า การเก็งกำไรหุ้น MSCI ดักหน้า ก่อนมีผลวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 โดยจากการเพิ่มน้ำหนักตลาดหุ้นไทยจาก 2.3% สู่ระดับ 2.8% มีผลตั้งแต่ 28 พฤษภาคมนี้ จับตาเงินเข้า 7.62 หมื่นล้านบาท

หุ้นใหญ่ทุบสถิติราคานิวไฮ 01

ทั้งนี้หุ้น SCC และ BDMS ถูกคาดหมายเงินเข้ามากสุดที่ 7.5 – 8 พันล้านบาท และ 5.3 – 5.7 พันล้านบาท จากการถูกเพิ่มน้ำหนักลงทุน ขณะที่หุ้นใหม่ที่ได้เข้าคำนวณคือ INTUCH, RATCH, CENTEL และ DTAC

นอกจากนี้หุ้น 20 หลักทรัพย์ที่ได้เพิ่มนํ้าหนัก ประกอบด้วย SCC, BDMS, CPN, BBLF, EGCO, LH, KBANK, BANPU, PTT, TU, ADVANC, CPF, HMPRO, MINT, EA, BH, BTS, GULF, TRUE, IRPC รวมถึงหุ้น MSCI ขนาดกลาง – เล็ก สำหรับที่ได้รับเข้าคำนวณในรอบนี้คือ BLA, AEONTS, LHFG, TASCO, EASTW,COL และ TIP ขณะเดียวกันหุ้น SCB ที่เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่ถูกลดน้ำหนักในครั้งนี้แล้ว ปรากฏว่าหุ้น ขนาดกลาง – เล็ก ที่ถูกลดน้ำหนักด้วยคือ KKP, TISCO, TCAP

บล.ยูโอบีเคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุว่าทิศทางเงินทุนไหลเข้ามีแนวโน้มดีขึ้น จากภาพรวมปัจจัยภายนอกที่เป็นบวกและการปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยของ MSCI ที่ส่งผลบวกต่อหุ้นที่เข้าคำนวณ อาทิ INTUCH, RATCH, DTAC, CENTEL และที่ถูกเพิ่มน้ำหนักอย่าง CPN, KBANK, BDMS, CPALL

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เชื่อว่าจากที่ประเมินว่าตลาดหุ้นหลังสงกรานต์ มีโอกาสกลับมาเดินหน้าต่อ (แบบ  sideway) เป้าหมาย 1 เดือนข้างหน้า ฝ่ายวิจัยมองไว้ที่ 1,680 – 1,700 จุด  เนื่องจากตลาดต่างประเทศรับรู้ข่าวในทางลบไปมาก มีโอกาสได้ข่าวบวกในเรื่องเจรจาการค้าสหรัฐ – จีน อาจมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาลออกมาเร็วๆ นี้ และการตั้งรัฐบาลที่คาดจะผ่านไปด้วยดี

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight