นายกฯ ยัน ไม่เลิก ‘เงินดิจิทัล’ ย้ำ ให้ความสำคัญ ‘คนมีรายได้น้อย’

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 7 ตุลาคม 2566

นายกรัฐมนตรียืนยัน จะไม่มีการยกเลิกโครงการเงินดิจิทัล ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย นำไปลงทุนประกอบอาชีพ หวังให้เศรษฐกิจกลับฟื้นขึ้นมา

วันนี้ (7 ต.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมโครงการบำบัดผู้ติดยาเสพติด ที่จังหวัดร้อยเอ็ดว่า ในการลงพื้นที่ ได้มีประชาชนแสดงเจตจำนงว่า อยากได้โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเลต หรือ เงินดิจิทัล ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี

แม้จะมีนักวิชาการหลายคนไม่เห็นด้วย มีการขอร้องให้ยกเลิก แต่ตนยืนยันตั้งแต่เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลนี้ รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกับเรื่องของเงิน ดิจิทัลว่า ได้รับฟังปัญหา และข้อเสนอแนะ ข้อแนะนำทั้งหลายจากทุก ๆ หน่วยงาน รวมถึง ในส่วนของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้รับฟังความคิดเห็นนำไปพิจารณาปรับปรุงแต่งเติมให้ทุกอย่างดูดีขึ้น แต่ไม่มีการยกเลิก

ยืนยันว่าโครงการเงินดิจิทัลไม่ใช่เป็นโครงการหาเสียง ไม่ใช่โครงการที่มาโปรยเงินเพื่อให้พี่น้องประชาชนกลับมาเลือกตั้งใหม่ เป็นโครงการที่ตระหนักดีถึงความจำเป็นของพี่น้องประชาชนที่มีความต้องการความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ได้เข้ามาบริหารงานประมาณ 1 เดือน เรื่องค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องที่สำคัญ ประชาชนมีขวัญ และกำลังใจในการไปทำมาหากินประกอบอาชีพ มีการลดค่าไฟฟ้า ลดค่าพลังงานเชื้อเพลิง หรือน้ำมันดีเซลก็ต่ำกว่า 30 บาท

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการพักหนี้เกษตรกรยืนยันเป็นเรื่องที่สำคัญต่อพี่น้องประชาชน อย่างที่ทราบกันดีว่า ประชาชนมีภาระค่าใช้จ่ายมากมาย จะทำอย่างไรให้ประชาชนกลับมามีขวัญ และกำลังใจในการทำมาหากิน จะหาเงินทุนที่ไหน คนต่างจังหวัดไม่ได้มีเงินเยอะเหมือนคนที่อยู่ฐานบนของสังคม ความเหลื่อมล้ำมีมากในสังคมไทย

งบประมาณของเงินดิจิทัลประมาณ 5 แสนกว่าล้าน ไม่ใช่งบประมาณที่ทำทุกปี ขอทำความเข้าใจว่า ทำแค่หนเดียว ไม่ใช่ตั้งใจออกมาว่าจะซื้อเสียง หรือทำโดนใจประชาชน ทำออกมาเพื่อให้ประชาชนมีเงินไปลงทุนในการประกอบอาชีพอย่างมีเกียรติอย่างมีศักดิ์ศรี

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า น้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ของนักวิชาการ แต่ก็มีแค่ 1 เสียง แต่พี่น้องประชาชนอีกหลายสิบล้านคนที่ต้องการเงินดิจิทัล เราน้อมรับฟัง และจะไปปรับปรุงเพื่อให้ประโยชน์สูงสุดตกอยู่กับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเสียภาษี หรือฝ่ายประชาชนที่มีความเดือดร้อนอย่างมากจากปัญหาเศรษฐกิจที่หมักหมมมานาน

ตรงนี้ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลนี้จะไม่ลุล่วงอำนาจความคิดเห็น แต่เหนือสิ่งอื่นใดความลำบากของพี่น้องประชาชน การที่พี่น้องประชาชนขาดเงินทุนที่จะไปดำรงชีพ รัฐบาลให้ความสำคัญมากที่สุด ยืนยันว่าจะไม่มีการยกเลิกโครงการเงินดิจิทัล

นายกรัฐมนตรี ยังเรียกร้องให้นักวิชาการที่ได้แสดงความคิดเห็นกันมามาก ขอให้แสดงความคิดเห็นกันออกมาอีก นักวิชาการที่เห็นด้วยก็มี นายกรัฐมนตรีในฐานะคนกลางตัวแทนประชาชน ก็จะนำไปพิจารณา และนำไปปรับปรุงโครงการดิจิทัล วอลเลต ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดให้โดนใจทุกคน พร้อมทั้งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง โดยคาดว่าประมาณปลายเดือนตุลาคมนี้ จะออกมาได้ทุกอย่าง