ค่าเงินบาท เปิดเช้าวันนี้ (3 พ.ค.) ที่ระดับ 34.06 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ 34.22 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.90-34.25 บาทต่อดอลลาร์
นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย ระบุว่า เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และโฟลว์ขายทำกำไรทองคำ ขณะที่แรงซื้อเงินดอลลาร์จากผู้เล่นบางส่วนในตลาด ยังช่วยหนุนให้เงินบาทแกว่งตัวเหนือโซนแนวรับแรก 34.00 บาทต่อดอลลาร์ได้บ้าง (ส่วนหนึ่งอาจเป็นการขายทำกำไร Long THB ของผู้เล่นบางส่วน)
ส่วนในวันนี้ ประเมินว่า โมเมนตัมการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทอาจเริ่มชะลอลงบ้าง หลังจากที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นพอสมควรในช่วงคืนที่ผ่านมา เนื่องจากบรรยากาศในตลาดการเงินกลับมาอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยงอีกครั้ง
หุ้นกลุ่มที่ปรับตัวลงแรง คือ กลุ่มพลังงานและการเงิน ทำให้ภาพดังกล่าวอาจส่งผลกดดันตลาดหุ้นไทย ซึ่งมีหุ้นทั้งสองกลุ่มเป็นสัดส่วนใหญ่ได้เช่นกัน โดยนักลงทุนต่างชาติอาจเลือกที่จะยังไม่รีบเข้าซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เงินบาทก็ยังมีปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่า อาทิ โฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงโฟลว์ซื้อเงินเยนญี่ปุ่น(JPY) จากผู้เล่นบางส่วน หลังเงินเยนอ่อนค่าลงต่อเนื่อง และโฟลว์ธุรกรรมจากผู้เล่นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรง ทำให้ประเมินว่า เงินบาทยังพอแกว่งตัวเหนือโซนแนวรับ 34.00 บาทต่อดอลลาร์ได้บ้าง (แนวรับถัดไป คือ 33.80 บาทต่อดอลลาร์)
ขณะที่โซนแนวต้านจะอยู่ในช่วง 34.20-34.30 บาทต่อดอลลาร์ (สอดคล้องกับแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 วัน)
อย่างไรก็ดี ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐในคืนนี้ เพราะหากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจพลิกกลับมาดีกว่าคาด ก็อาจหนุนให้เงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น หรือผู้เล่นในตลาดกลับมามองว่า เฟดยังมีโอกาสอยู่บ้างในการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ
ในช่วงนี้ ความผันผวนของตลาดการเงินยังอยู่ในระดับสูง ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ตามคาด! กนง.มีมติเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี มีผลทันที!
- นักลงทุนคาด ‘แบงก์ชาติทั่วโลก’ ชะลอ ‘ขึ้นดอกเบี้ย’ หลังเกิดวิกฤติธนาคาร
- ‘6 ธนาคาร’ ทรงอิทธิพลต่อ ‘ระบบการเงินไทย’
