ค่าเงินบาท เปิดวันนี้ (2 พ.ค.) ที่ระดับ 34.20 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 34.13 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.80-34.50 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 34.05-34.30 บาทต่อดอลลาร์
นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย ประเมินแนวโน้มเงินบาทว่า อาจแกว่งตัว sideways ในกรอบเดิมต่อ โดยปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าอาจมาจากโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ โฟลว์ซื้อเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) และโฟลว์ซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว
อย่างไรก็ดี ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งเป็นวันหยุดของตลาดการเงินไทย โดยในเชิงเทคนิค เส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 วัน (แถว 34.30 บาทต่อดอลลาร์) ยังคงเป็นแนวต้านแรกของเงินบาท ส่วนแนวรับสำคัญจะเป็นโซน 33.80-34.00 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งยังคงเห็นผู้เล่นบางส่วน ทยอยซื้อเงินดอลลาร์ในโซนดังกล่าวอยู่
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น มีโอกาสแข็งค่าขึ้นต่อได้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ออกมาดีกว่าคาด หนุนให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มเชื่อว่า เฟดอาจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ (จับตาว่า ดัชนีเงินดอลลาร์ DXY จะสามารถปรับตัวขึ้นทะลุโซนแนวต้านแถว 102.5 จุด ได้หรือไม่)
อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์อาจอ่อนค่าลงได้เร็ว หากเฟดส่งสัญญาณเตรียมหยุดขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ อีซีบี กลับย้ำจุดยืนพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ยังคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูง ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ตามคาด! กนง.มีมติเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี มีผลทันที!
- นักลงทุนคาด ‘แบงก์ชาติทั่วโลก’ ชะลอ ‘ขึ้นดอกเบี้ย’ หลังเกิดวิกฤติธนาคาร
- ‘6 ธนาคาร’ ทรงอิทธิพลต่อ ‘ระบบการเงินไทย’