ภายหลังจากที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยทยอยประกาศ ผลประกอบการงวดปี 2561 ออกมา รวมทั้งจะมีการประกาศจ่ายเงินปันผลในงวดครึ่งปีหลังทันที โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มสื่อสาร
ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลในปี 2561 พบว่า บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ประกาศจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดให้กับผู้ถือหุ้น 2 ครั้ง โดยผลประกอบการครึ่งปีแรกจ่ายปันผลใน อัตราหุ้นละ 3.78 บาทต่อหุ้น ขณะที่ล่าสุดผลประกอบการครึ่งปีหลังอัตราหุ้นละ 3.30 บาทต่อหุ้น
หากพิจารณาจากโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ ADVANC จะเห็นว่า กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ จะได้รับเงินปันผลปี 2561อยู่ที่ 6,291.51 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกได้รับเงินปันผลประมาณ 3,359.03 ล้านบาท และในครึ่งปีหลังประมาณ 2,932.48 ล้านบาท
สำหรับต่างชาติที่ได้รับเงินปันผลมากสุดคือ SINGTEL STRATEGIC INVESTMENTS PTE LTD ในครึ่งปีแรกรับเงินปันผลเป็นเงินสด 2,620.89 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีหลังรับเงินปันผล 2,288.08 ล้านบาท รวมในปี 2561 กลุ่มดังกล่าวได้รับเงินปันผลอยู่ที่ 4,908.97 ล้านบาท คิดเป็น 78%ของเงินปันผลที่ต่างชาติได้รับทั้งหมด
ขณะที่ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH จ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด 2 ครั้งโดยงวดครึ่งแรกปี 2561 จ่ายเงินปันผลอัตราหุ้นละ 1.35 บาทต่อหุ้น และครึ่งปีหลังจ่ายเงินปันผล ในอัตราหุ้นละ 1.17 บาทต่อหุ้น
เมื่อพิจารณาโครงสร้างผู้ถือหุ้นล่าสุดจะเห็นว่า ในปี 2561 INTUCH จ่ายเงินปันผลให้กับกลุ่มต่างชาติ มูลค่ารวม 3,493.99 ล้านบาท โดยงวดครึ่งปีแรกจ่ายเงินปันผลให้ ต่างชาติมูลค่ารวม 1,807.77 ล้านบาท และงวดครึ่งปีหลัง 1,686.22 ล้านบาท
ทั้งนี้ กลุ่ม SINGTEL GLOBAL INVESTMENT PTE. LTD ยังคงเป็นนักลงทุนต่างชาติที่ได้รับเงินปันผลมากสุดที่มูลค่ารวม 1,696.83 ล้านบาทคิดเป็น 48.55% ของเงินปันผลที่ให้นักลงทุนต่างชาติ
สำหรับการเคลื่อนไหวราคา หุ้น ADVANC ในปี 2562 ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.38% จากราคา 172.50 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 183.50 บาท โดยราคาหุ้นสูงสุดที่ 188 บาท ต่ำสุดที่ 166 บาท ราคาเฉลี่ย 177.28 บาทต่อหุ้น
ขณะที่ ราคาหุ้น INTUCH ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14.14% จากราคา 47.75 บาท เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 54.50 บาท ราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 57 บาท ราคาต่ำสุด 46.50 บาท ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 52.43 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุว่า INTUCH ได้มีการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 2.71 บาทในปี 2561 เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 2.52 บาท จากปันผลพิเศษของ CSL ทั้งนี้ พอร์ตการลงทุนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 792 ล้านบาท จากเดิม 525 ล้านบาทในปี 2555 – 2561 และมีแผนที่จะเพิ่มรายได้ปีนี้ให้เกินระดับ 1 พันล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทได้มีการลงทุนใน ydm Thailand เป็น Platform ของดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง, Chococrm (CRM สำหรับ SME) และ Ecartstudio (B2B และ B2C Platform) ซึ่งใช้เงินลงทุนรวม 250 ล้านบาทในปี 2561 และด้านรายได้ของ Wongnai เพิ่มขึ้นเป็น 250 ล้านบาทในปี 2561 เพิ่มขึ้น 60% พร้อม IPO ในปี2562
บล.บัวหลวง ประเมินว่า ADVANC มุ่งไปสู่อัตราการเติบโตของรายได้บริการหลักในปี 2562 ซึ่งการที่บริษัทตั้งเป้ารายได้บริการหลัก เติบโต 5% ในปี 2562 โดยมุ่งเน้นที่จะแข่งขันเพื่อให้ได้ส่วนแบ่งการตลาดกลับคืนมาในระดับหนึ่ง และรักษาหรือขยายขนาดของธุรกิจหลักของบริษัท
ถ้าหากแบ่งแยกตามหน่วยธุรกิจ บริษัทตั้งเป้าอัตราการเติบโตที่ 1 – 3% สำหรับรายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยคำนวณผลกระทบจากการแข่งขัน ณ ระดับปัจจุบันเข้าไปแล้วและผลกระทบทางบวกจากการหยุดให้โปรโมชั่นความเร็วคงที่ที่ไม่จำกัดการใช้งานทั้งหมดในไตรมาส 4/2561
สำหรับธุรกิจบรอดแบนด์ประจำที่ บริษัทตั้งเป้าผู้ใช้งานบรอดแบนด์ประจำที่สะสมระดับ 1 ล้านราย ณ สิ้นปี 2562 หรือคิดเป็นจำนวนลูกค้าบรอดแบนด์ ประจำที่รายใหม่สุทธิ จำนวน 2.7 แสนรายในปี 2562 ซึ่งถือว่าสูงกว่า 2.09 แสนรายในปี 2561 โดยผ่านกลยุทธ์การทำตลาดคอนเวอร์เจ้นซ์ ระหว่างธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ ธุรกิจบรอดแบนด์ประจำที่ โดยมุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ เฉลี่ยต่อครัวเรือนจากการให้ความสำคัญต่อฐานลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีอัตราการใช้งานในระดับสูงและการปรับการใช้งานให้เข้ากับแต่ละครัวเรือน บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดของจำนวนผู้ใช้บริการธุรกิจ บรอดแบนด์ประจำที่ 10% ในปี 2562 เพิ่มขึ้นจาก 8% ณ ปัจจุบัน
ทั้งนี้ หลังจากการเข้าซื้อกิจการของ CSL บริษัทตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้บริการดาต้า ที่ให้กับลูกค้าองค์กร ซึ่งคิดเป็น 10% ของรายได้บริการหลักที่ 7 – 9%
สำหรับในปี 2562 โดยมีปัจจัยบวกจากผลประโยชน์ร่วมที่จะได้รับจาก CSL ไม่ว่าจะเป็นศูนย์บริการข้อมูลคลาวด์ บริการการจัดการด้านไอซีที และบริการโซลูชั่นของหน่วยงานองค์กรด้านอื่นๆ อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อม หรือ EBITDA มาร์จิน มีแนวโน้มทรงตัวในปี 2562 ซึ่งน่าจะใกล้เคียงกับ 43.5% เนื่องจากการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ดีมากขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มที่จะถูกกลบด้วยเป้าของค่าใช้จ่ายด้านการตลาด และต้นทุนด้านโครงข่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป้าของงบลงทุนอยู่ที่ 2 – 2.5 หมื่นล้านบาท ในปี 2562 ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับปี 2561
ปัจจุบันประมาณการรายได้บริการหลักมีแนวโน้มเติบโต 5.3% งบลงทุนอยู่ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท และ EBITDA มาร์จินที่ 44.6% สำหรับในปี 2562 และด้วยเป้าผลการดำเนินงานข้างต้นสำหรับในปีนี้คาดว่ากำไรสุทธิของ ADVANC มีแนวโน้มกลับมาเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนในช่วงครึ่งหลังของปี 2562
