เปิดสถิติ 1 ปี ‘แจ้งความออนไลน์’ พุ่งกว่า 2 แสนเคส เสียหาย 3.1 หมื่นล้าน 10 อันดับแจ้งความสูงสุด เช็กเลย!
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทํางานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และ พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร่วมกันเปิดเผยถึงสถิติรับแจ้งความออนไลน์ในรอบ 1 ปี ที่ผ่านมา และภัยออนไลน์ใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพ
โดยสถิติตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 – 1 มีนาคม 2566 มีการแจ้งคดีผ่านระบบออนไลน์รวมทั้งสิ้น 218,210 เคส ความเสียหาย 31,579,305,746 บาท
สถิติแจ้งความออนไลน์ 10 อันดับแรก
สถิติแจ้งความออนไลน์ 10 อันดับแรกรอบปี 2565
- คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า 73,252 เรื่อง วงเงิน 955,427,866 บาท
- คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม 29,945 เรื่อง วงเงิน 3,323,194,517 บาท
- คดีหลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน 24,821 เรื่อง วงเงิน 1,034,104,918 บาท
- คดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง 20,013 เรื่อง วงเงิน 3,505,338,808 บาท
- คดีหลอกให้ลงทุน (ที่ไม่เข้าลักษณะฉ้อโกงประชาชน) 16,460 เรื่อง วงเงิน 7,661,884,637 บาท
- คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า(เป็นขบวนการ) 8,036 เรื่อง วงเงิน57,293,969 บาท
- คดีหลอกเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน 7,285 เรื่อง วงเงิน 254,219,605 บาท
- คดีหลอกให้โอนเงิน(ไม่เป็นขบวนการ) 5,286 เรื่อง วงเงิน 369,123,851 บาท
- คดีหลอกให้รักแล้วลงทุน 3,201 เรื่อง วงเงิน 1,556,536,563 บาท
- หมิ่นประมาท ดูหมิ่น 3,171 เรื่อง วงเงิน 11,641,372 บาท
รวมมีผู้แจ้งความ 218,210 เรื่อง มูลค่าความเสียหายรวม 31,579,305,746 บาท
โดยภัยออนไลน์ที่น่าสนใจในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ คือ คดีแก๊งคอล เซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่การคลัง และโทรหาผู้เสียหายให้ตรวจสอบสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงเคสอื่นๆ ที่ทําในลักษณะคล้ายกัน เพื่อหลอกลวงขอข้อมูลและรหัส OTP 6 หลัก ซึ่งทําให้คนร้ายสามารถควบคุมโทรศัพท์และดูดเงินออกไปได้
แนะนำวิธีการป้องกันแอปพลิเคชัน – ลิงก์ดูดเงิน
- ไม่ผูกบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ไว้ในแอปต่างๆ
- หากจำเป็นให้ยกเลิกการผูกบัตรเมื่อใช้งานเสร็จ หรือจำกัดยอดวงเงินไว้
- หากถูกหลอกขอให้ตั้งสติและให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจถูกหลอก
- ดูเบอร์โทรที่โทรมา หากมีเครื่องหมาย + นำหน้า แสดงว่าโทรมาจากต่างประเทศ
- ห้ามโหลดลิงก์จากคนที่เราไม่รู้จัก
- ไม่บอกรหัสใดๆ ที่แจ้งมาให้ผู้อื่นทราบ
- ตัดสัญญาณ เมื่อเกิดอาการ “หน้าจอค้าง” ต้องรีบตัดสัญญาณ โดยปิดเครื่อง/ปิดเราเตอร์/ถอดซิมการ์ด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางสํานักงานตํารวจแห่งชาติได้ประสานไปยังหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในการขอนําป้ายหรือแผ่นโฆษณา รวมถึงคลิปวิดีโอไปติดตามสถานที่ต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์กลโกงของคนร้าย และในทุกสัปดาห์จะจัดแถลงเตือนภัยก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อกระจายข่าวสารและกลโกงต่างๆ เพื่อที่ประชาชนจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- หนักข้อขึ้นทุกวัน! ตำรวจไซเบอร์ เตือน ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ อ้างอดีต รอง ผบ.ตร. ข่มขู่ให้เหยื่อโอนเงิน
- ธอส. เปิด ‘ศูนย์รับแจ้งเหตุภัยทางการเงิน’ จากมิจฉาชีพ เร่งแก้ปัญหาหลอกลวงทางออนไลน์
- แบงก์ชาติ ออกมาตรการ ‘ห้ามส่งลิงก์ทุกประเภท’ ผ่าน SMS-อีเมล แก้ปัญหาถูกหลอกดูดเงิน