ค่าเงินบาท เปิดซื้อขายเช้าวันนี้ (1 ก.พ.) ที่ระดับ 32.85 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ กรอบวันนี้น่าจะอยู่ที่ระดับ 32.70-33.00 บาทต่อดอลลาร์
นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย ระบุว่า การพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินบาทนั้น เห็นได้ชัดว่ามาจากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และโฟลว์ขายทำกำไรการรีบาวด์ของราคาทองคำ
เงินบาทมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบ sideways เนื่องจากผู้เล่นในตลาดอาจรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้ต้องระวังความผันผวนต่อเงินบาท ในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุมเฟด
หากผลการประชุมเป็นไปตามคาด คือ ขึ้นดอกเบี้ยเพียง +0.25% และยังส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้อต่อไป เงินดอลลาร์อาจไม่ได้อ่อนค่าต่อไปมากนัก โดยอาจเห็น แรงขายทำกำไรสถานะ Short USD vs สกุลเงินอื่น ๆ (มองเงินดอลลาร์อ่อน) ส่งผลให้เงินดอลลาร์อาจรีบาวด์ขึ้นได้บ้าง ในกรณีนี้ เงินบาทก็อาจไม่ได้แข็งค่าต่อไปมากนัก และต้องรอจับตาการเคลื่อนไหวของราคาทองคำว่า จะปรับตัวลงหรือไม่
แต่หาก เฟดขึ้นดอกเบี้ย +0.25% และส่งสัญญาณอยากชะลอการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อรอประเมินข้อมูลเศรษฐกิจ และผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยให้ครบถ้วน ก็อาจเห็นตลาดเปิดรับความเสี่ยงชัดเจน เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ส่วนราคาทองคำก็อาจปรับตัวขึ้นได้บ้าง หนุนให้เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าใกล้โซนแนวรับสำคัญ 32.50-32.60 บาทต่อดอลลาร์
ในกรณีสุดท้าย หากเฟดขึ้นดอกเบี้ย +0.50% สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ตลาดอาจพลิกกลับมาปิดรับความเสี่ยงชัดเจน ซึ่งอาจเห็นเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น พร้อมการย่อตัวลงของราคาทองคำ กดดันให้เงินบาทอาจอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้านแถว 33.20 บาทต่อดอลลาร์ได้ไม่ยาก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- มติเอกฉันท์! กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ตามคาด
- SCB EIC ฟันธง! ‘กนง.’ ขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งเดินหน้าสู่ระดับ 2% ในปีนี้
- ‘แบงก์รัฐ’ ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ มีผลตั้งแต่เดือน ม.ค. 66 เป็นต้นไป