BANPU กำไรไตรมาส 2/65 ทำสถิติสูงสุดใหม่ โตแรง 865% ส่งผลให้การดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2565 มีกำไรสุทธิ 23,053.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 706% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,860.56 ล้านบาท
BANPU บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ถือว่าเป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานในชาวงไตรมาส 2/2565 โดดเด่นเป็นอย่างมาก จากการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงานทั่วโลก เนื่องจากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น ตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ประกอบกับการตรึงตัวของซัพพลาย จึงส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อผลกำไร
ทั้งนี้ BANPU เป็นบริษัทพลังงานแบบครบวงจร โดยสร้างการเติบโตครอบคลุม 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่
1. ธุรกิจแหล่งพลังงาน ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ
2. กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน โรงไฟฟ้าจากพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป และจากพลังงานหมุนเวียน
3. กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน ประกอบด้วยระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร ระบบจัดเก็บพลังงาน และระบบการจัดการเทคโนโลยีพลังงาน
BANPU กำไรไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 865%
ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 BANPU มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 60,986 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 122% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจถ่านหิน ที่มีรายได้คิดเป็นสัดส่วน 70% รายได้จากธุรกิจก๊าซ คิดเป็นสัดส่วน 22% และรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าและไอน้ำ คิดเป็นสัดส่วน 8%
ขณะที่กำไรสุทธิ 12,789.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 865% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ปัจจัยสำคัญมาจากราคาถ่านหิน และราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลก ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งราคาขายถ่านหินเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น 20% จากไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ 156.66 ดอลลาร์ต่อตัน อีกทั้งปริมาณการขายปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะเหมืองในประเทศออสเตรเลีย และราคาก๊าซธรรมชาติเฉลี่ย 6.64 ดอลลาร์ต่อพันลูกบาศก์ฟุต ปรับตัวสูงขึ้น 38% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
ส่งผลให้การดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 BANPU มีกำไรสุทธิ 23,053.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 706% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,860.56 ล้านบาท
ธุรกิจผลิตไฟฟ้า (Energy Generation) ของบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ยังคงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำสมอ โดยหลักมาจากโรงไฟฟ้า HPC ที่สามารถเดินเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง และโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ Temple I ซึ่งมีปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าและราคาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น จากการที่รัฐเท็กซัส ที่ตั้งของโรงไฟฟ้าเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน เป็นช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในรอบปี
นอกจากนี้ ยังเน้นการลงทุนในประเทศที่มีความเติบโตของการใช้ไฟฟ้า และมีนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากการผนวกกำลังหรือ Synergy ระหว่างกลุ่มบ้านปู เพื่อให้บรรลุเป้าหมายกำลังการผลิต 5,300 MW ภายในปี 2568
ธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน (Energy Technology) โดย บ้านปู เน็กซ์ (Banpu NEXT) ยังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจผ่านพอร์ตการลงทุน ที่หลากหลายและกระจายอยู่ในประเทศต่างๆ ที่มีความเติบโตด้านการใช้พลังงาน เพื่อต่อยอดระบบนิเวศทางพลังงานของบ้านปู (Banpu Ecosystem) เช่น การขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ไปยังประเทศอินโดนีเซีย การขยายธุรกิจกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System) การลงทุนจัดตั้งโรงงานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน พร้อมช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยให้กลายเป็นสังคมคาร์บอนต่ำอย่างแท้จริง
BANPU กำไรไตรมาส 2 ราคาถ่านหิน – ก๊าซธรรมชาติตลาดโลกสูงขึ้น
นักวิเคราะห์ บล.เคทีบีเอสที คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น BANPU ที่ราคาเป้าหมาย 16 บาท หลังรายงานกำไรสุทธิที่เป็นสถิติรายไตรมาสใหม่ที่ระดับ 12,789.04 ล้านบาท ดีกว่าที่ consensus และฝ่ายวิจัยคาดการณ์ไว้ คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 31,400 ล้านบาท โต 219% มีปัจจัยผลักดันหลักจากราคาขายถ่านหินของอินโดนีเซีย (ITM) และออสเตรเลีย (CEY) ที่สูงขึ้นเป็น ราคาขายก๊าซฯ ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งรับรู้กำไรจากการขายบริษัท Sunseap Group Pte,Ltd
สำหรับมุมมองต่อราคาหุ้นที่ Outperform SET 22% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา สอดคล้องกับแนวโน้มราคาถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้นจากความกังวลด้านอุปทานตึงตัว ล่าสุด BANPU มี PBV ที่ไม่แพงที่ 1.07 เท่า และมองว่ากำไรของบริษัทจะแข็งแกร่งต่อเนื่องไปในครึ่งปีหลัง และมี upside จากการเข้าซื้อแหล่ง Barnett เพิ่มเติม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘บ้านปู เน็กซ์’ ผนึก ‘เชิดชัยฯ-ดูราเพาเวอร์’ ตั้งโรงงานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในไทย
- ‘บ้านปู เน็กซ์’ ซื้อกิจการ 100% ‘เอ็นจี เซอร์วิสเซส’ ขยายพอร์ตธุรกิจพลังงาน
- บ้านปู นำเสนอ ‘ค่ายเพาเวอร์กรีน ปีที่ 16’ เติมประสบการณ์ ‘วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม’ อย่างไร้ขีดจำกัด
