Stock - Finance

CPALL กำไรครึ่งปีแรก 6,457 ล้านบาท ตั้งเป้าปีนี้ขยายอีก 700 สาขา

CPALL กำไรครึ่งปีแรก 6,457 ล้านบาท ตั้งเป้าปีนี้ขยายอีก 700 สาขา ภายในปี 2565 คาดใช้เงินลงทุน เปิดร้านสาขาใหม่  3,800 – 4,000 ล้านบาท วางแผนพัฒนาช่องทางจำหน่ายสินค้าและบริการ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ 

หุ้น CPALL หรือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจร้านสะดวกซื้อของประเทศไทย โดยมีธุรกิจหลักคือร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดจากจำนวนสาขากว่า 80% นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจอื่นๆ ที่ครอบคลุม ได้แก่ การเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ MAKRO ศูนย์จําหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคแบบค้าส่ง, บริการด้านอาหารพร้อมรับประทานและเบเกอรี่ ซีพี ฟู้ดแล็บ และ ซีพีแรม, ร้านค้าออนไลน์ 24 Shopping, ธุรกิจด้านการศึกษา อาทิ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ เป็นต้น

CPALL กำไรครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้น 34.8% 

CPALL รายการผลประกอบการ ประจำไตรมาส 2/2565 ออกมาอย่างโดดเด่น โดยมีรายได้รวม 213,655 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 55.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,004 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 37.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน คิดเป็นกำไรต่อหุ้นตามงบการเงินรวมอยู่ที่ 0.31 บาทต่อหุ้น

CPALL กำไรครึ่งปีแรก

ปัจจัยสำคัญของการเติบโตทั้งรายได้และกำไร มาจากการขายและบริการของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และธุรกิจค้าส่งค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ MAKRO สามารถรักษาอัตราการเติบโตได้ดีเยี่ยม รวมถึงมีการรับรู้รายได้ของธุรกิจโลตัสส์เข้ามาด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีต่อเนื่อง
เพิ่มขึ้น ทำให้การบริโภคภายในประเทศปรับตัวดีขึ้น

โดยในไตรมาส 2/2565 ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการเติบโตขึ้น และมียอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวัน เท่ากับ 77,684 บาท และยอดขายเฉลี่ยของร้านสาขาเดิม เพิ่มขึ้น 14.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดซื้อต่อบิลโดยประมาณ 84 บาท ในขณะที่จำนวนลูกค้าต่อสาขาต่อวันเฉลี่ย 918 คน ซึ่งลูกค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้น เพราะการยกเลิกมาตรการต่างๆ ที่ควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19

ประกอบกับรายได้จากการขายสินค้าส่วนเพิ่มผ่านกลยุทธ์ O2O อาทิ 7-Eleven Delivery, All Online และ 24 Shopping ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภาวะปัจจุบันได้เป็นอย่างดี โดยมีสัดส่วนสูงกว่า 10% ของรายได้จากการขายสินค้ารวม

CPALL กำไรครึ่งปีแรก 6,457 ล้านบาท

ดังนั้น ทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 CPALL มีรายได้รวม 413,387 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิ 6,457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และทำกำไรต่อหุ้นตามงบการเงินรวม 0.67 บาทต่อหุ้น

CPALL กำไรครึ่งปีแรก

ทั้งนี้ จะเห็นว่าธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ยังคงเป็นแกนหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตของ CPALL มาโดยตลอด ซึ่งในไตรมาส 2/65 บริษัทได้เปิดสาขาใหม่รวมทั้งสิ้น 180 สาขา ทำให้มีจำนวนร้านสาขาทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 13,433 สาขา แบ่งเป็น ร้านสาขาบริษัท 6,530 สาขา (คิดเป็น 49%) และร้านค้าที่ได้รับสิทธิ 6,903 สาขา (คิดเป็น 51%)

พร้อมกันนี้ CPALL วางแผนที่จะลงทุนเปิดร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven สาขาใหม่อีกประมาณ 700 สาขาภายในปี 2565 คาดว่าจะใช้งบลงทุนสำหรับการเปิดร้านสาขาใหม่ ประมาณ 3,800 – 4,000 ล้านบาท อีกทั้งยังวางแผนที่จะพัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าและบริการ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์  รวมถึงการขยายเครือข่ายร้านสาขาต่อเนื่องไปตามการขยายตัวของชุมชน โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ แหล่งท่องเที่ยว และทำเลที่มีศักยภาพอื่นๆ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ปรับเข้าสู่ New Normal

CPALL กำไรครึ่งปีแรก

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ CPALL คาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้จากอัตราการเติบโตของยอดขายจากร้านสาขาใหม่ และอัตราการเติบโตของยอดขายเฉลี่ยจากร้านเดิม ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ทั้งนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจไทยมีฟื้นตัวแล้ว แต่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบ เช่น การปรับขึ้นของราคาพลังงาน และสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งจะกระทบต่อต้นทุนสินค้า ค่าขนส่ง ค่าครองชีพ รวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภค

สรุปแล้วถือว่าเป็นผลงานครึ่งปีแรกที่แข็งแกร่งทีเดียวสำหรับ CPALL ซึ่งเป็นธุรกิจใกล้ตัวคนไทย และการวิเคราะห์ก็ค่อนข้างเข้าใจง่าย ไม่ได้มีความซับซ้อน อิงตามสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงนั้นๆ เพราะด้วยพื้นฐานธุรกิจที่แกร่งทั่วแผ่นดิน และเป็นผู้นำอันดับ 1 ที่ทิ้งห่างคู่แข่งพอสมควร

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน