เปิดอาณาจักรของ BDMS มีเครือข่ายโรงพยาบาลกว่า 53 แห่งทั้งในประเทศไทยและกัมพูชา 6 กลุ่ม ปีแห่งโอกาส รับผู้ป่วยต่างชาติฟื้น รุกตลาด Wellness
เมื่อพูดถึงผู้นำในธุรกิจบริการโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก หุ้น BDMS หรือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ภายใต้การนำทัพของ “นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ” โดยอาณาจักรของ BDMS มีเครือข่ายโรงพยาบาลกว่า 53 แห่งทั้งในประเทศไทยและกัมพูชา แบ่งเป็น 6 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช กลุ่มโรงพยาบาลเปาโล กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท กลุ่มโรงพยาบาลรอยัล (ประเทศกัมพูชา) และกลุ่มโรงพยาบาลอื่นๆ รวมทั้งยังมี BDMS Wellness Clinic ศูนย์การดูแลสุขภาพแบบครบวงจร บนถนนวิทยุ โดยใช้นวัตกรรมทางเวชศาสตร์ป้องกันและชะลอวัย (Preventive & Regenerative Medicine) หรือเน้นการป้องกันก่อนที่จะเจ็บป่วย พื่อการมีอายุที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพ ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
BDMS มีจุดแข็งด้านเครือข่ายโรงพยาบาลจำนวนมาก ทำให้สามารถส่งต่อคนไข้ระหว่างกันได้ และเกิด Economy of Scale ในการลงทุนซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ เพราะมีการสร้างความร่วมมือในเครือจนเกิดประโยชน์สูงสุด และยังทำให้ส่วนแบ่งรายได้ของ BDMS กระจายตัวได้ดีอีกด้วย
แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา BDMS เป็นโรงพยาบาลที่ไม่ได้รับประโยชน์จากผู้ป่วยโควิดเท่าไหร่นัก เนื่องจากฐานรายได้หลักของบริษัทมาจากกลุ่มคนไข้ต่างชาติ ซึ่งการปิดประเทศห้ามเดินทาง ทำให้รายได้ค่ารักษาพยาบาลหายไปมาก ส่งผลต่อภาพรวมผลประกอบการของ BDMS พลาดเป้าไปพอสมควร
อย่างไรก็ดี ทิศทางการลงทุนในปี 2565 มีสัญญาณบวกมาสนับสนุน BDMS ให้ดูน่าสนใจอีกครั้ง เริ่มตั้งแต่ผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2565 ที่บริษัทมีรายได้และกำไรเติบโตแข็งแกร่ง โดยรายได้จากการดำเนินงานรวม 23,159 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% จากช่วงปีก่อน และกำไรสุทธิ 3,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 157% จากช่วงปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากทั้งผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งในส่วนของผู้ป่วยต่างชาติ เป็นการเติบโตตามการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และจำนวนผู้ป่วยชาวต่างชาติที่กลับเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น
ทำให้มีการประเมินว่าผู้ป่วยกลุ่ม Non-covid ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เริ่มทยอยฟื้นตัวกลับมาเรื่อย ๆ และจะมีการเติบโตค่อนข้างมากโดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยจากตะวันออกกลาง รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยโรคซับซ้อน และโรคเรื้อรัง ที่จะกลับเข้ามารักษาหลังจากไทยได้เริ่มเปิดประเทศ และเตรียมยกเลิกระบบ Thailand Pass
ในระยะยาว BDMS มีปัจจัยบวกที่น่าติดตาม คือ โครงการ BDMS Silver Wellness & Residence ที่ใช้งบประมาณลงทุนราว 23,545 ล้านบาท ประกอบด้วย โรงแรมเพื่อสุขภาพ ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ และอาคารที่พักอาศัยที่พักอาศัยกลุ่มสูงวัย บนพื้นที่ทำเลทอง 13 ไร่ บริเวณหัวมุมถนนสารสินและถนนหลังสวน ซึ่งมีแผนเปิดให้บริการในปี 2572
มองว่า BDMS Silver Wellness & Residence เป็นการลงทุนเพื่ออนาคต เพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว เบื้องต้นบริษัทคาดหวัง IRR 11-12% ต่อปี ระยะเวลาคืนทุน 10 -11 ปี ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Global Wellness Institute ระบุว่าตลาด Wellness ทั่วโลกมีมูลค่าราว 4.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีการเติบโตทุกปีในอัตรา 10-20% ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำคัญของ Medical hub ที่มีชื่อเสียงในระดับและผู้เล่นในตลาดที่มีศักยภาพมากที่สุดในเวลานี้ก็คือ BDMS นั่นเอง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คัด ’14 หุ้นคุณค่าน่าสะสม’ สายอดทนเน้นตั้งรับ
- ส่อง ‘6 ดีลร่วมทุน GULF’ ยกระดับศักยภาพธุรกิจ
- ‘ปีทองหุ้นโรงกลั่น’ BCP-SPRC-TOP ค่าการกลั่น พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์