สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดให้ซื้อสลากดิจิทัล ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ของ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ไปเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2565 มีตัวแทนเข้าร่วมกว่า 10,258 ราย มีจำนวนสลากขาย 5,279,500 ฉบับ ในราคา 80 บาท ใช้รูปแบบนำสลากแบบเดิมมาสแกนแล้วนำเข้าแพลตฟอร์มเป๋าตัง
รัฐบาลให้เหตุผลว่าจุดประสงค์ของนโยบายนี้ เพื่อต้องการปราบปรามการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาที่กำหนด และยังช่วยส่งเสริมอาชีพ ส่งเสริมรายได้ ให้กับตัวแทนรายย่อยอีกด้วย ซึ่งฉลากทุกใบบนแอปเป๋าตัง เป็นการจำหน่ายโดยตัวแทนรายย่อยที่รับโดยตรงมาจากสำนักงานสลาก จึงมีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งในเรื่องกรรมสิทธิ์และเรื่องการรับเงินรางวัล
ทั้งนี้ การเปิดขายสลากผ่านแอปเป๋าตัง ผลตอบรับดีเกินคาด ใช้เวลาเพียง 4 วันครึ่งก็สามารถขายหมดทั้งจำนวนกว่า 5 ล้านใบ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและมีความเป็นได้ว่าในอนาคตจะมีการเพิ่มจำนวนสลากในงวดถัดๆ ไป เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของประชาชน
ขายสลากผ่านแอป KTB ได้ประโยชน์อะไรบ้าง?
ผลของการปราบปรามสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาทั่วประเทศของภาครัฐ ที่มุ่งเน้นตัดกระบวนการของตัวแทนออนไลน์ชื่อดังต่างๆ เช่น “มังกรฟ้า” “กองสลากพลัส” และ “เสือแดงล็อตเตอร์รี่” เป็นต้น ด้วยการใช้ประโยชน์ของแอปเป๋าตังค์ของ KTB มาเป็นช่องทางการขายสลากออนไลน์ด้วยตัวเอง
เนื่องจากที่ผ่านมา แอปเป๋าตัง ถูกออกแบบให้เป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (G-Wallet) สำหรับใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน และรองรับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ตลอดจนเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจในมาตรการต่างๆ ของภาครัฐอยู่แล้ว เช่น คนละครึ่ง เราชนะ ม.33 เรารักกัน และการซื้อขายพันธบัตรออมทรัพย์ เป็นต้น
ทั้งนี้ บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เปิดเผยว่า การที่แอปเป๋าตังถูกใช้เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ ตั้งแต่การจองซื้อสลากไปจนถึงการขึ้นเงินรางวัล จะทำให้ KTB มีรายได้จากการขึ้นเงินรางวัล โดยคิดค่าธรรมเนียม 1% ของมูลค่าเงินรางวัล (ไม่รวมอากรแสตมป์ 0.5%)
ดังนั้น หากคิดจากจำนวนสลากทั้งหมดในแต่ละงวด จำนวน 100 ล้านฉบับ มูลค่ารางวัลรวม 4,600 ล้านบาท จึงประเมินว่าในกรณีที่ดีที่สุด Best Case (ขายออนไลน์ทั้งหมดและมีการขึ้นเงินรางวัลทั้งหมดผ่านแอปเป๋าตังค์) KTB จะมีรายได้ 1,100 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4% ของกำไรสุทธิ แต่อย่างไรก็ดี จากการที่มีสลากขายบนแอปเป๋าตังเพียง 5.2 ล้านฉบับ สะท้อนว่าประโยชน์ที่ KTB ได้จริงในตอนนี้จะยังต่ำกว่ากรณีที่ดีที่สุดอยู่พอสมควร และเป็นผลบวกต่อกำไรสุทธิเล็กน้อย
ด้าน บล. พาย เปิดเผยว่า KTB มีปัจจัยบวกจากการจำหน่ายสลากดิจิทัลบนแอปเป๋าตัง และเชื่อว่าจะมีปัจจัยหนุนจากการที่มีผู้ใช้แอปนี้อยู่ราว 33 ล้านราย ซึ่งธนาคารมีโอกาสสร้างรายได้ในอนาคต แต่ไม่คิดว่าจะมีการรับรู้รายได้อย่างมีนัยะสำคัญในระยะสั้นนี้ ภายใต้สมมติฐานของรายได้ค่าธรรมเนียมที่ 1%
สุดท้ายแล้วส่วนตัวมองว่าแม้ในระยะสั้นจะมีแรงเก็งกำไรหุ้น KTB เข้ามาบ้างจากกระแสการตอบรับที่ดีของการขายสลาก จนส่งผลต่อราคาหุ้น KTB ปรับตัวสูงขึ้น แต่เชื่อว่าประเด็นนี้จะเป็นปัจจัยหนุนระยะยาวมากกว่า หากมีการเพิ่มจำนวนสลากในอนาคต รวมทั้งยังผลดีทางอ้อมจากการที่มีคนเข้ามาเปิดบัญชีกันมากขึ้น ทำให้ธนาคารสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สินเชื่อ ประกัน กองทุน ผ่านแอปเป๋าตัง ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นจุดแข็งของ KTB ที่ธนาคารอื่นยากจะเข้ามาแข่งขัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ ‘ลดราคา’ สลาก ดิจิทัล บนแอปเป๋าตัง แก้ปัญหาเลขไม่ฮอต ขายไม่หมด
- ขอเวลา 2 เดือน ประเมินผล ขาย ‘สลาก ดิจิทัล’ ผ่านเป๋าตัง
- ฮอตมาก!! แค่ 5 วัน ‘สลาก ดิจิทัล’ ขายหมดเกลี้ยง นายกฯ ย้ำ ขายออนไลน์คู่ออฟไลน์
