Stock - Finance

กำไรหุ้นเครือปตท.ไตรมาส 1/65 ‘ไทยออยล์’ แกร่งสุด รับน้ำมันขาขึ้น

สรุปกำไรหุ้นเครือปตท. ไตรมาส 1/2565 พบ “ไทยออยล์” แกร่งสุด รับน้ำมันขาขึ้น ขณะที่อีกหลายบริษัทกำไรลดลง จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขาดทุนจากประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน

กลุ่มบริษัทพลังงานในเครือปตท. ทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2565 ครบแล้ว ภาพรวมรายได้และกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ถือว่าเติบโตได้ดีตามราคาพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาขายเฉลี่ยผลิตภัณฑ์และปริมาณขายโดยรวมที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลดีกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเลียม จากค่าการกลั่นที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ TOP หรือ ไทยออยล์ กลายเป็นหุ้นที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในไตรมาสนี้

เครือปตท.

อย่างไรก็ตาม หุ้นเครือปตท. ทั้ง 7 ตัว ประกอบด้วย หุ้น PTT, PTTEP, PTTGC, TOP, IRPC, GPSC และ OR สามารถทำกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2565 รวมกันอยู่ที่ 49,353 ล้านบาท ลดลง 39% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากหลายบริษัทในกลุ่ม มีผลขาดทุนจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันและผลิตภัณฑ์ จากการที่ราคาซื้อขายล่วงหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก บทความนี้เราเลยจะพามาเจาะรายละเอียดของหุ้นในเครือปตท. กันทีละตัว

 

เครือปตท.

1. PTT หรือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ไตรมาส 1/2565 รายได้รวม 758,465 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 25,571 ล้านบาท ปรับลดลง 21.50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 32,588 ล้านบาท

ปตท. มีสัดส่วนกำไร 30% มาจากการดำเนินธุรกิจก๊าซธรรมชาติและธุรกิจการค้าระหว่างประเทศของบริษัท ส่วนอีก 70% มาจากผลตอบแทนการลงทุนของบริษัทในกลุ่ม ซึ่งกลุ่มธุรกิจที่โดดเด่นสุด คือ โรงกลั่นและปิโตรเคมี จากค่าการกลั่น (Accounting GRM) ขึ้นมาอยู่ที่ 8.8 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และส่วนต่าง ราคาผลิตภัณฑ์ส่วนใหญปรับตัวสูงขึ้น

2. PTTEP : บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)

ไตรมาส 1/2565 รายได้รวม 54,033 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 10,519 ล้านบาท ปรับลดลง 8.80% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 11,533 ล้านบาท

แม้รายได้รวมเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และมีปริมาณการขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น หลักจากเข้าซื้อโครงการโอมาน แปลง 61 รวมถึงโครงการ มาเลเซีย แปลงเอช เริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติ และโครงการอาทิตย์ที่ผู้ซื้อรับก๊าซธรรมชาติในปริมาณเพิ่มขึ้น แต่ PTTEP มีผลขาดทุนจากการประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน จึงทำให้กำไรสุทธิลดลงนั่นเอง

3. PTTGC : บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

ไตรมาส 1/2565 รายได้รวม 175,554 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 4,212 ล้านบาท ปรับลดลง 57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 9,695 ล้านบาท

PTTGC มีรายได้และกำไรจากการดำเนินงานปกติดีขึ้น เพราะราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ส่วนต่างผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีก็ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทรับรู้ผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันและตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยงเข้ามากระทบผลกำไรสุทธิในไตรมาสนี้

4. TOP : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)

ไตรมาส 1/2565 รายได้รวม 114,506 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 7,186 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 113.76% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 3,360 ล้านบาท

ได้รับอานิสงส์ของราคาขายเฉลี่ยที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบโลก และมีกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมันเพิ่มขึ้น 3.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สาเหตุหลักจากส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล และน้ำมันอากาศยาน/น้ำมันก๊าด ที่ปรับตัวดีขึ้นมาก หลังการผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง

เครือปตท.

5. IRPC : บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)  

ไตรมาส 1/2565 รายได้รวม 79,690 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,501 ล้านบาท ลดลง 73% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 5,581 ล้านบาท

IRPC ได้รับผลกระทบจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ ทั้งน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานและปิโตรเคมีส่วนใหญ่ เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิล ขณะเดียวกันบริษัทก็มีผลขาดทุนจากการบริหารความเสี่ยงน้ำมัน

6. GPSC : บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)

ไตรมาส 1/2565 รายได้รวม 28,223 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 313 ล้านบาท ปรับลดลง 84% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 1,992 ล้านบาท

ถือว่าเป็นไตรมาสที่ผลประกอบการได้รับผลกระทบหนักสุด  มาจากราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้มาร์จินจากการขายไฟฟ้าให้กับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมลดน้อยลง

7. OR : บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)

ไตรมาส 1/2565 รายได้รวม 178,206 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,845 ล้านบาท ปรับลดลง 3.90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 4,003 ล้านบาท

แม้ OR จะมีปริมาณขายปรับเพิ่มขึ้น แต่ด้วยสถานการณ์ราคาน้ำมัน ทำให้มีการช่วยเหลือภาคประชาชนโดยการตรึงราคาดีเซล ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรอ่อนตัวลง รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากค่าบริการใช้ สถานีเติมน้ำมันอากาศยาน ขณะที่ในส่วนของธุรกิจค้าปลีกร้านอาหารและเครื่องดื่ม และร้านค้าปลีกอื่นๆ ถือว่ามีทิศทางที่เติบโตต่อเนื่อง

ทั้งหมดนี้ก็คือบทสรุปไตรมาส 1/2565 ของหุ้นพลังงานในเครือ ปตท. ซึ่งเราจะเห็นว่าแม้ส่วนใหญ่จะอยู่ในธุรกิจน้ำมัน ที่หากมองเผินๆ หลายคนคงนึกว่าได้รับประโยชน์เต็มๆ จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในปัจจุบัน อย่างไรก็ดี เมื่อเจาะลึกลงไปในแต่ละหน่วยธุรกิจเราจะพบว่ามันมีอะไรที่ลึกซึ่งกว่านั้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน