สรุปงบครบทุกตัว กำไรปี 2564 หุ้น 20 อันดับแรกในตลาดหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ (Market Cap.) สูงสุด ใครทำผลงานได้โดดเด่นเข้าตากันบ้างในปีที่ผ่านมา
บทความนี้เราขอจัดมาให้เป็นพิเศษ โดยเป็นการรวบรวมข้อมูลผลประกอบการปี 2564 มาให้แบบครบๆ สำหรับหุ้น 20 อันดับแรกที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ (Market Cap.) สูงสุดในตลาดหุ้นไทย เอาเป็นว่า… ลองมาดูกันเลยว่าใครทำผลงานได้โดดเด่นเข้าตากันบ้างในปีที่ผ่านมา
1. PTT หรือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 108,363 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 187% จากปีก่อน
2. AOT หรือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ขาดทุนสุทธิ 16,322 ล้านบาท พลิกจากปีก่อนที่มีผลกำไร
(หมายเหตุ: AOT เป็นรอบงบปี 2564 ของบริษัท ระหว่างเดือนตุลาคม 63 – กันยายน 64)
3. ADVANC หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 26,922 ล้านบาท ปรับลดลง 1.86% จากปีก่อน
4. CPALL หรือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 12,985 ล้านบาท ปรับลดลง 19.35% จากปีก่อน
5. PTTEP หรือ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 38,863 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 71% จากปีก่อน
6. GULF หรือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 7,670 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 79.12% จากปีก่อน
7. SCC หรือ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) กำไรสุทธิ 47,173 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 38.16% จากปีก่อน
8. MAKRO หรือ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 13,686 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 108% จากปีก่อน
9. DELTA หรือ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 6,699 ล้านบาท ปรับลดลง 5.66% จากปีก่อน
10. SCB หรือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 35,598 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 30.80% จากปีก่อน
11. KBANK หรือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 38,053 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 29.00% จากปีก่อน
12. BDMS หรือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) กำไรสุทธิ 1,936 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน
13. EA หรือ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 6,100 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 17.21% จากปีก่อน
14. OR หรือ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 11,474 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน
15. IVL หรือ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 26,288 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 989% จากปีก่อน
16. BBL หรือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 26,507 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 54.30% จากปีก่อน
17. BAY หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 33,794 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 46.68% จากปีก่อน
18. CPN หรือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 7,148 ล้านบาท ปรับลดลง 25.20% จากปีก่อน
19. SCGP หรือ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 8,294 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 28.45% จากปีก่อน
20. INTUCH หรือ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 10,748 ล้านบาท ปรับลดลง 2.70% จากปีก่อน
สรุปแล้วจะเห็นว่าผลประกอบการปี 2564 ของบริษัทขนาดใหญ่ ภาพรวมแล้วถือว่าเติบโตดีขึ้นจากปีก่อน ตามทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจแบบดั้งเดิม (Traditional) เช่น พลังงาน ปิโตรเคมี ธนาคาร และอุตสาหกรรม ส่วนบริษัทที่มีผลกำไรลดลงนั้นเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี รวมถึงได้รับผลประทบจากโควิด-19 โดยตรงอย่างเช่นอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกรายย่อย เป็นต้น
หมายเหตุ | บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำหรือแนะนำให้ซื้อ ถือหรือขายหุ้นแต่อย่างใด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สำรวจ ‘7 หุ้นโรงกลั่น’ พร้อมเช็คอนาคตการลงทุนปีนี้
- ‘IRPC’ ทุ่มกว่า 4 หมื่นล้านบาท ขับเคลื่อนกลยุทธ์ลงทุน 5 ปี มุ่งสู่องค์กร Net Zero Emission
- ‘GC’ ประกาศเพิ่มมูลค่าธุรกิจ รองรับ 5 เมกะเทรนด์โลก ดึง ‘allnex’ เสริมศักยภาพ สู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต